The Development of Instructional Model to Enhance English Language Skills Based on Content and Language Integrated Learning for Higher Secondary Students

Abstract

The purposes of this research were 1) to study Needs in English languages teaching, 2) to develop of the instructional model to enhance Enhance English Language Skills Based on Content and Language Integrated Learning for Higher Secondary Students 3) to study of the result on implementing of the instructional model. The research procedures involved three phase as following : the first phase was study of fundamental data. The second phase was the Instructional model design and develop of the instructional model. The third phase was the Instructional model implementation of the instructional model to Enhance English Language Skills Based on Content and Language Integrated Learning for Higher Secondary Students. The instructional model was experimented in the class with forty students from 11th grades at Benchama-maharat School in Ubonratchathani province. The experiment period were in the second semester of academic year of 2018 selected through Cluster Random sampling and instructional model was twenty-four hours. The researcher used mixed method collecting data. The assessment tools were Needs (questionnaire), Achievement Test, English language skills test in Listening and Speaking, interviews and satisfaction form. Both of quantitative and qualitative data were gathered and analyzed to answer the research questions. In addition to quantitative data, content analysis of qualitative data collected from follow-up interviews explained and supplemented the initial qualitative result.

The result of the research were as follows:

1. The Needs for supporting students’ English language skills of speaking and listening were raked the first. The second was Assessment and Reflection and the third was instructors. The instructional management was ranked the fourth. The last one form and usage languages.

2. The instructional model is composed of six components: 1) Principles of the model 2) Objectives of the model 3) Syntax of the instruction, 4) Social system 5) Principle of Reaction, and 6) Support system. The Instructional model was aimed at enhancing the students’ for English Language Skills Based on Content and Language Integrated Learning for Higher Secondary Students. The learning units is connection to others content consists of 8 topics for 24 hours. The teaching-learning procedure was divided into 4 steps: 1) Lead-in 2) Expression 3) Activity 4) Feedback. The Instruction model was verified for quality, appropriateness, and validity by experts. Finally, the result showed that the experts approved the draft instructional model.

3. The results of the Instructional model implementation indicated that the pupils had more the English Language skills showed that:

3.1 English Language skills of teaching Content and Language Integrated Learning (CLIL) was higher than students who were taught through traditional teaching method at .05 level of significance.

3.2 Speaking competency in English Language skills of teaching Content and Language Integrated Learning (CLIL) was statistically higher than the 80 percent criterion at .05 level of significance.

3.3 Listening competency in English Language skills of teaching Content and Language Integrated Learning (CLIL) was statistically higher than the 80 percent criterion at .05 level of significance.

3.4 The satisfaction of the students for Instructional Model to Enhance English Language Skills Based on Content and Language Integrated Learning (CLIL) was at high level (mean = 4.70).

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนามีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความต้องการจำเป็นในการส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนทักษะทางภาษาอังกฤษ 2) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทักษะทางภาษาอังกฤษ ตามแนวการเรียนรู้แบบบูรณาการภาษาและเนื้อหา สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายและ 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทักษะทางภาษาอังกฤษ ตามแนวการเรียนรู้แบบบูรณาการภาษาและเนื้อหา สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย การดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ระยะคือระยะที่ 1 การศึกษาความต้องการจำเป็น ระยะที่ 2 การออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทักษะทางภาษาอังกฤษ ตามแนวการเรียนรู้แบบบูรณาการภาษาและเนื้อหา ระยะที่ 3 การศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทักษะทางภาษาอังกฤษ ตามแนวการเรียนรู้แบบบูรณาการภาษาและเนื้อหา สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ตัวอย่างคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 29 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 40 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ผู้วิจัยใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลแบบผสม (Mixed Method) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) แบบสอบถามนักเรียน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ 3) แบบทดสอบวัดทักษะทางภาษาอังกฤษด้านการฟัง 4) แบบประเมินวัดทักษะทางภาษาอังกฤษด้านการพูด และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนตามรูปแบบ ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยโดยใช้ข้อมูลเชิงปริมาณอธิบายผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนด้วยการหาร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที (t-test) และใช้ข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นข้อมูลสนับสนุนด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis)

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. ความต้องการจำเป็นในการจัดการเรียนการสอนต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ลำดับแรก คือ ด้านทักษะทางภาษาอังกฤษด้านการฟังและการพูด ลำดับที่ 2 คือ ด้านการประเมินผลและสะท้อนผล ลำดับที่ 3 คือ ด้านครูผู้สอน ลำดับที่ 4 คือ ด้านการจัดการเรียนการสอน และลำดับสุดท้าย คือ ด้านการใช้ภาษา

2. รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษาอังกฤษ ตามแนวการเรียนรู้แบบบูรณาการภาษาและเนื้อหา สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มีรายละเอียดขององค์ประกอบต่าง ๆ ที่สำคัญประกอบด้วย 1) หลักการแนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนการสอน 4) ระบบสังคม 5) หลักการตอบสนอง 6) ระบบสนับสนุน ใช้เวลาในการจัดกิจกรรมตามรูปแบบ 24 ชั่วโมง โดยขั้นตอนการจัดการเรียนการสอน 4 ขั้น ดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นที่ 2 ขั้นนำเสนอความรู้ ขั้นที่ 3 ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ 4 ขั้นสะท้อนผล และเมื่อนำรูปแบบการเรียนการสอนไปตรวจสอบคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญพบว่า คุณภาพของรูปแบบการเรียนการสอนโดยภาพรวมอยู่ใน ระดับมาก

3. ผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษาอังกฤษ ตามแนวการเรียนรู้แบบบูรณาการภาษาและเนื้อหา สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย พบว่า

3.1 นักเรียนที่ได้รับการสอนตามรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษาอังกฤษ ตามแนวการเรียนรู้แบบบูรณาการภาษาและเนื้อหามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษสูงกว่าการเรียนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.2 นักเรียนที่ได้รับการสอนตามรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษาอังกฤษด้านการฟัง ตามแนวการเรียนรู้แบบบูรณาการภาษาและเนื้อหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.3 นักเรียนที่ได้รับการสอนตามรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษาอังกฤษด้านการพูด ตามแนวการเรียนรู้แบบบูรณาการภาษาและเนื้อหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.4 ความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้รับได้รับการสอนตามรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษาอังกฤษ ตามแนวการเรียนรู้แบบบูรณาการภาษาและเนื้อหาหลังเรียนโดยภาพรวมระดับความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.70