The Relationship between Proactive Leadership and Work Efficiency of Production Line Employees of Lear Corporation Thailand

Abstract

Nowadays, the society is rapidly changing. In order to respond to changing business environments effectively, proactive behaviors of leaders are critical factor. Therefore, this study is interested in examining the relationship between proactive leadership and work efficiency of production line employees of Lear Corporation Thailand. Data was collected from 280 employees from three factories. The questionnaire was used as a tool for collecting data. The statistical methods used for data analysis were percentage, mean, standard deviation, t-test, F-test (ANOVA and MANOVA), multiple correlation analysis, simple regression analysis and multiple regression analysis.

The research results show that production line employees have opinion about overall proactive leadership and all its dimensions (self-Awareness, imagination, conscious and independent will) at a high level. They have opinion about overall work efficiency and all its dimension at a high level.

Production line employees with different gender and factory location have the different opinion about the overall proactive leadership and its dimensions including self-awareness, imagination and independent will.

Production line employees with different gender and factory location have the different opinion about the overall work efficiency and its dimensions including quality, quantity and timeliness.

The analysis of the relationship and impact found that 1) there were a positive impact of proactive leadership in the aspect of imagination on overall work efficiency and its quality and quantity aspects. 2) there was no impact of proactive leadership on overall work efficiency and all its dimensions.

In conclusion, the imagination dimension of proactive leadership had positive relationship and impact on work efficiency. Therefore, Lear Corporation Thailand should give priority to inspire managers to predicting the future trends and focusing on utilizing the new technology and processes to increase the work efficiency of employees.

ในสังคมปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะสามารถตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเชิงรุกของผู้นำถือว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญ ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้จึงสนใจศึกษาวิจัย ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงรุกกับประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานสายการผลิตของบริษัท เลียร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย จำนวน 280 คนจาก 3 โรงงานและใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test, F-test (ANOVA และ MANOVA) การวิเคราะห์สหสัมพันธ์พหุคูณ การวิเคราะห์การถดถอยอย่างง่าย และการวิเคราะห์ความถดถอยแบบพหุคูณ

ผลการวิจัยพบว่า พนักงานสายการผลิต มีความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะผู้นำเชิงรุกของผู้บริหารโดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านอยู่ในระดับมากทุกด้าน ได้แก่ ด้านการรู้จักตนเอง ด้านการมีจินตนาการ ด้านการมีวิจารณญาณ และด้านความมุ่งมั่นที่เป็นอิสระ และพนักงานสายการผลิต มีความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน อยู่ในระดับมากทุกด้าน ได้แก่ ด้านคุณภาพ ด้านปริมาณ และด้านเวลา

พนักงานสายการผลิต ที่มีเพศ และโรงงานที่สังกัด แตกต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะผู้นำเชิงรุกของผู้บริหารโดยรวม ด้านการรู้จักตนเอง ด้านการมีจินตนาการ และด้านการมีความมุ่งมั่นที่เป็นอิสระ แตกต่างกัน

พนักงานสายการผลิต ที่มีเพศ และโรงงานที่สังกัด แตกต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงาน ด้านคุณภาพ และด้านปริมาณ แตกต่างกัน

จากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์และผลกระทบ พบว่า 1) ภาวะผู้นำเชิงรุก ด้านการมีจินตนาการ มีความสัมพันธ์และผลกระทบเชิงบวกกับประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม ด้านคุณภาพ และด้านปริมาณ 2) ภาวะผู้นำเชิงรุก ด้านการรู้จักตนเอง ด้านการมีวิจารณญาณ และด้านการมีความมุ่งมั่นที่เป็นอิสระ ไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม และทุกด้าน

โดยสรุป ภาวะผู้นำเชิงรุก ด้านการมีจินตนาการมีความสัมพันธ์และผลกระทบเชิงบวกกับประสิทธิภาพการทำงาน ดังนั้นบริษัท เลียร์ คอร์ปอเรชั่น จึงควรให้ความสำคัญกับการกระตุ้นให้ผู้บริหารของบริษัทแสดงออกในการคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต และมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีและกระบวนการใหม่ ๆ ในการทำงานมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน