Effect of Learning Management by using Davies Instructional Model to Basic Futsal Skills of Mathayomsuksa 5 Students

Abstract

This Article aimed to study (1) to develop of Learning Management by using Davies Instructional Model to pass the criteria 80 percent (2) ) to compare Basic Skills of Futsal using for Student’s criteria 80 percent. and (3) study the satisfaction on Learning Management by using Davies Instructional Model. The sample of this research were mathayomsuksa 5 students Buraphaphittayakhan Municipal School , Mueang Maha Sarakham Municipality consisted of 35 males and females selected with purposive sampling. The research instruments consisted of 1) Plans for Learning Management by using Davies Instructional Model, with 8 Plans, the results of the quality assessment of the learning management plan were at a high level. 2) Basic Skills of Futsal Practical Test. 3) Satisfaction Survey. The statistics which were used to analyze the data were percentage, average, and standard deviation. The research results were found as follows;

1. The efficiency of the Plans for Learning Management by using Davies Instructional Model was 91.14/92.24 which was higher than the expected criteria.

2. Mathayomsuksa 5 students’ who attended the activities had their average scores in basic skills of futsal higher than before attending the activities.

3. Overall satisfaction, at most levels among students with the learning management by using Davies Instructional Model

การศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ โดยการจัดการเรียนรู้ทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานกีฬาฟุตซอลของนักเรียน และเทียบเกณฑ์ร้อยละ 80 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ กลุ่มเป้าหมายในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบูรพาพิทยาคาร สังกัดเทศบาลเมืองมหาสารคาม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 2 ห้อง เพศชายและเพศหญิง จำนวน 35 คน โดยเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 3 ชนิด คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ โดยการจัดการเรียนรู้ทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ 8 แผน ผลการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก 2) แบบมดสอบทักษะพื้นฐานกีฬาฟุตซอล 3) แบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า

1. แผนการจัดการเรียนรู้ทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ที่มีต่อทักษะพื้นฐานกีฬาฟุตซอล มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 91.14/92.24 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้

2. นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยทักษะพื้นฐานกีฬาฟุตซอล หลังเรียนผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 92.24 ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยทักษะพื้นฐานกีฬาฟุตซอล สูงกว่าร้อยละ 80 ที่กำหนดไว้

3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของเดวีส์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด