Please use this identifier to cite or link to this item: http://202.28.34.124/dspace/handle123456789/1840
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributorTipsuda Phaingamen
dc.contributorทิพย์สุดา ไพรงามth
dc.contributor.advisorThanadol Phuseeriten
dc.contributor.advisorธนดล ภูสีฤทธิ์th
dc.contributor.otherMahasarakham University. The Faculty of Educationen
dc.date.accessioned2023-01-20T11:20:15Z-
dc.date.available2023-01-20T11:20:15Z-
dc.date.issued16/9/2022
dc.identifier.urihttp://202.28.34.124/dspace/handle123456789/1840-
dc.descriptionMaster of Education (M.Ed.)en
dc.descriptionการศึกษามหาบัณฑิต (กศ.ม.)th
dc.description.abstractThe objectives of this study were 1) to determine the effectiveness of cartoon animation lessons by using brain-based learning (BBL) to improve spelling skill for students primary 3 according to criteria 80/80. 2) To compare the learning outcomes of cartoon animation lessons by using Brain-based Learning (BBL) to improve spelling skill for students primary 3 with the specified criteria. 3) To study the satisfaction of 25 students with cartoon animation lessons by using Brain-based Learning (BBL) to improve spelling skill for students primary 3 at Ban Ya Kha School, Nakhon Ratchasima Province. It was obtained by using a simple random sampling method. The tools used in this research consisted of 1) learning management plan for development of cartoon animation lessons by using Brain-based learning (BBL) to improve spelling skill for students primary 3. 2) There was an assessment of the media quality of cartoon animation lessons by using Brain-based Learning (BBL) learning management to improve spelling skill for students primary 3. 3) Reading ability test on spelling subject: Thai language, primary 3 is a spelling test. 4) The satisfaction questionnaire. The statistics used in the data analysis were mean, percentage, standard deviation. And the hypothesis was tested by Dependent Samples t-test.   The results of the research can be summarized as follows: 1. to determine the effectiveness of cartoon animation lessons by using brain-based learning (BBL) to improve spelling skill for students primary 3 created by the researcher, the efficiency was 81.26/93.20, which follows the required criteria. 2. Comparison of learning outcomes by using cartoon animation lessons according to Brain-based Learning (BBL) to improve spelling skill for students primary 3, during before and after class, the difference was statistically significant at the .05 level. 3. the satisfaction of students primary 3 with cartoon animation lessons by using Brain-based Learning (BBL) to improve spelling was at the highest level, the value x̅ = 4.61, S.D. = 0.14.en
dc.description.abstractการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาบทเรียนการ์ตูนแอนิเมชันโดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมองเป็นฐาน พัฒนาความสามารถด้านการอ่านสะกดคำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์โดยใช้บทเรียนการ์ตูนแอนิเมชันโดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมองเป็นฐาน พัฒนาความสามารถด้านการอ่านสะกดคำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กับเกณฑ์ที่กำหนด 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนการ์ตูนแอนิเมชันโดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมองเป็นฐาน พัฒนาความสามารถด้านการอ่านสะกดคำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหญ้าคา จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 25 คน ได้มาด้วยวิธีการแบบการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาบทเรียนการ์ตูนแอนิเมชันโดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมองเป็นฐาน (Brain-based Learning : BBL) เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านสะกดคำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) บทเรียนการ์ตูนแอนิเมชันโดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมองเป็นฐาน (Brain-based Learning : BBL) เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านสะกดคำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลการประเมินคุณภาพสื่อ 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่าน เรื่อง การสะกดคำ วิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบทดสอบโดยใช้การอ่านสะกดคำ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติทดสอบค่าที (t-test แบบ Dependent Samples)   ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. เพื่อพัฒนาบทเรียนการ์ตูนแอนิเมชันโดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมองเป็นฐาน พัฒนาความสามารถด้านการอ่านสะกดคำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 81.26/93.20 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 2. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์โดยใช้บทเรียนการ์ตูนแอนิเมชันโดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมองเป็นฐาน พัฒนาความสามารถด้านการอ่านสะกดคำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ความพึงพอใจของนักเรียนมีต่อบทเรียนการ์ตูนแอนิเมชันโดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านสะกดคำ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่า x̅ = 4.61, S.D. = 0.14th
dc.language.isoth
dc.publisherMahasarakham University
dc.rightsMahasarakham University
dc.subjectการ์ตูนแอนิเมชันth
dc.subjectการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (BBL)th
dc.subjectการอ่านสะกดคำth
dc.subjectCartoon Animationen
dc.subjectBrain-Based Learning (BBL)en
dc.subjectSpelling Skillen
dc.subject.classificationSocial Sciencesen
dc.titleThe Development of Cartoon Animation Lessons by using Brain-Based Learning to Improve Spelling Skill for Students Primary 3en
dc.titleการพัฒนาบทเรียนการ์ตูนแอนิเมชันโดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามหลักการ พัฒนาสมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านสะกดคำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3th
dc.typeThesisen
dc.typeวิทยานิพนธ์th
Appears in Collections:The Faculty of Education

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
61010580015.pdf6.48 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.