The battle process, pra and pra in the Khon performance Ramayana story

Abstract

The objectives of this research is 1) to study the importance of The concept of the battle process in the Khon performance of the Ramayana story 2) To study the process of fighting ,pra and pra in Khon performances on the subject of Ramakien by using qualitative research methods. From research papers and field data from the sample group, including the A group of 3 Thai classical dance experts, a group of practitioners of 2 people, and a general group of 20 people, totaling 25 people. Research tools It consists of structured and unstructured surveys, observations, interviews. and presented the research results with a descriptive, analytical description. The results of the research revealed that 1) the drama 'Ramayana' is a performance related to the battle between Rama and Tossakan. In the performance, the battle process between pra and giants, the battle process between pra and giants, and the end of the battle process are very popular. There is always one side that loses or wins. The combat process in performance has evolved from martial arts since ancient times, forming a beautiful mime performance of the combat process 2) The process of fighting pra with pra It is the battle process of Pra Mongkut, Pra Lob, fighting with Rama, Lakshmana, Praprot, Pra Sattrud, found in the release of the horses. which was found to be the only combat process that is characterized by fighting characters who are protagonists fighting with the protagonist together The process of fighting pra with pra It shows the process of fighting in the form of a child protagonist. and in the form of an adult character In the manner of fighting 2 pairs at the same time and ending the battle process without any side losing or so it has to use techniques Methods for performing beautiful dance moves to suit the personality of the character as a child The use of space, rhythm, readiness to fight at the same time, 2 pairs to create balance. and the practice of aesthetics and beauty according to the tradition.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความสำคัญ แนวคิดกระบวนการรบในการแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ 2) เพื่อศึกษารูปแบบกระบวนการรบพระกับพระ ในการแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ จากเอกสารงานวิจัยและข้อมูลภาคสนามจากลุ่มตัวอย่างได้แก่กลุ่ม กลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางด้านนาฏศิลป์ไทย จำนวน 3 คน กลุ่มผู้ปฏิบัติจำนวน 2 คน และกลุ่มทั่วไป 20 คน รวมทั้งสิ้น 25 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบไปด้วยแบบสำรวจ แบบสังเกต แบบสัมภาษณ์ ที่มีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง และนำเสนอผลการวิจัยด้วยการพรรณนาวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่า 1) การแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์เป็นการแสดงมีเนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับการต่อสู้กันระหว่าง ฝ่ายพระราม และฝ่ายทศกัณฐ์ ในการแสดงจึงนิยมเห็น กระบวนการรบระหว่างพระกับยักษ์ และ กระบวนการรบระหว่างลิงกับยักษ์เป็นประจำ แล้วการสิ้นสุดกระบวนการรบ มักจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่เป็นฝ่ายแพ้หรือฝ่ายชนะเสมอ ซึ่งกระบวนการรบในการแสดงได้พัฒนามาจากศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่โบราณจะเกิดเป็นกระบวนการรบในการแสดงโขนที่งดงาม 2) กระบวนการรบพระกับพระ เป็นกระบวนการรบของพระมงกุฏ พระลบ รบกับ พระราม พระลักษมณ์ พระพรต พระสัตรุด ที่พบใน ตอน ปล่อยม้าอุปการ ซึ่งพบว่าเป็นเพียงกระบวนการรบเดียวที่เป็นลักษณะการรบตัวละครที่เป็นตัวพระรบกับตัวพระด้วยกัน กระบวนการรบพระกับพระ เป็นการแสดงกระบวนการรบในลักษณะของตัวพระที่เป็นเด็ก และในลักษณะตัวพระที่เป็นผู้ใหญ่ ในลักษณะเข้ารบคู่ 2 พร้อมกัน และสิ้นสุดกระบวนการรบโดยม่มีฝ่ายใดแพ้หรือนะ ดังนั้น จึงต้องใช้เทคนิค วิธีการในการปฏิบัติท่ารำให้สวยงาม ให้เหมาะสมกับบุคลิกตัวละครที่เป็นเด็ก การใช้พื้นที่ จังหวะ ความพร้อมเพียงในการเข้ารบพร้อมกัน 2 คู่ ให้เกิดความสมดุล และการปฏิบัติให้เกิดสุนทรียะความงามตามจารีต