Developing Listening and Speaking abilities using the B-SLIM Model with Multimedia for Mattayomsuksa 4 students

Abstract

This research investigates the Development of the Listening and Speaking abilities, using the B-SLIM Model with Multimedia, of Mathayomsuksa four students. This research aimed: 1) to develop instructional Chinese plans using the B-SLIM Model with Multimedia, for Mathayomsuksa four students, that required a 70/70 efficiency criterion, 2) to compare the before and after listening scores using the B-SLIM Model with Multimedia and 3) to compare the before and after speaking scores using the B-SLIM Model with Multimedia. The target group were six students from Mathayomsuksa four, during their second semester in the 2020 academic year, at Suwannaphumpittayapaisarn School. The instrument used in this study were 5 lesson plans, 20 listening test items and 1 speaking test item. The statistics used for data analysis with Mean, Percentage, S.D. and E1/E2

The results of the study were as follows:

1. Instructional Chinese plans using B-SLIM Model with Multimedia for Mathayomsuksa 4 students was 78.33 / 77.60, which was higher than the requirement 70/70 efficiency criterion.

2.The listening mean score before using the B-SLIM Model with Multimedia was 8.33 or 41.67 percent, with a S.D. of 0.52, and after was 16.17 or 80.83 percent, with S.D. of 0.98. The post-test mean score was higher than that of the pre-test.

3.The speaking mean score before using the B-SLIM Model with Multimedia was 3.83 or 31.94 percent, with a S.D. of 0.98, and after was 8.67 or 72.22 percent, with S.D. of 0.52. The post-test mean score was higher than that of the pre-test.

การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model ร่วมกับสื่อประสมที่ส่งเสริมความสามารถด้านการฟังและการพูดภาษาจีน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีความมุ่งหมายของการวิจัยอยู่ 2 ประการ คือ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model ร่วมกับสื่อประสมที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการฟังภาษาจีน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ B-SLIM Model ร่วมกับสื่อประสม 3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการพูดภาษาจีน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ B-SLIM Model ร่วมกับสื่อประสม กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 2 ที่เลือกเรียนวิชาภาษาจีน (เพิ่มเติม) โรงเรียนสุวรรณภูมิพิทยไพศาล ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 6 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบB-SLIM Model ร่วมกับสื่อประสมรายวิชาภาษาจีนเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 5 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 10 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบความสามารถด้านการฟังและความสามารถด้านการพูดภาษาจีน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แบ่งเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 แบบทดสอบความสามารถด้านการฟัง แบบปรนัย จำนวน 20 ข้อ ตอนที่ 2 แบบทดสอบความสามารถด้านการพูด แบบทดสอบภาคปฏิบัติ จำนวน 1 ข้อ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ E1/E2

ผลการวิจัยพบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาจีน (เพิ่มเติม) โดยใช้ B-SLIM Model ร่วมกับสื่อประสม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 5 แผน มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 78.33 / 77.60 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 70 / 70 2) ความสามารถด้านการฟัง โดยใช้ B-SLIM Model ร่วมกับสื่อประสม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 8.33 คิดเป็นร้อยละ 41.67 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.52 และหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 16.17 คิดเป็นร้อยละ 80.83 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.98 และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 3) ความสามารถด้านการพูด โดยใช้ B-SLIM Model ร่วมกับสื่อประสม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 3.83 คิดเป็นร้อยละ 31.94 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.98 และหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 8.67 คิดเป็นร้อยละ 72.22 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.52 และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน