Problem-Based Learning to Enhance Mathematical Problem Solving Ability in the Topic of Probability for Mathayomsuksa 5 Students

Abstract

The objectives of this study were to (1) study learning activities by using problem-based learning to enhance the mathematical problem solving ability in the topic of probability for grade 11 students to achieve an efficiency of 75/75. (2) compare the mathematical problem solving ability in the topic of probability by using problem-based learning for grade 11 students with the 75 percent criteria. (3) compare the learning achievements in the topic of probability by using problem-based learning for grade 11 students with the 75 percent criteria. (4) study students' satisfaction towards problem-based learning to enhance the mathematical problem solving ability for grade 11 students. The research samples were selected using the cluster random sampling technique. There were 43 students from grade 11 at Sarakhampittayakom School in the second semester of the academic year 2022. The research tools were: (1) 12 learning plans using problem-based learning on the topic of probability. (2) There were 5-item essay tests to measure mathematical problem-solving abilities. (3) There were 20-item multiple-choice tests to measure achievement. (4) There were 15-item questionnaires to measure satisfaction. The statistics used for analysing the data were percentage, mean, standard deviation, and the binomial test.

The results were revealed as follows:

1. Problem-based learning in the topic of probability for grade 11 students with efficiency equal to 78.74/78.60, which meets the specified criterion 75/75.

2. The students who studied problem-based learning had mathematical problem-solving ability higher than the percentage criteria of 75, which is statistically significant at the .05 level.

3. The students who studied problem-based learning had a higher learning achievement than the percentage criteria of 75, which is statistically significant at the .05 level.

4. The students have a high level of satisfaction with problem-based learning to enhance mathematical problem-solving abilities, with an average of 4.44.

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ (1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กับเกณฑ์ร้อยละ 75 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องความน่าจะเป็น โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กับเกณฑ์ร้อยละ 75 (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/8 ที่เรียนวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนสารคามพิทยาคม จำนวนนักเรียน 43 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง ความน่าจะเป็น จำนวน 12 แผนการเรียนรู้ (2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา จำนวน 5 ข้อ เป็นแบบทดสอบอัตนัย (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 20 ข้อ เป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 15 ข้อ และสถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ The Binomial test

ผลการวิจัย พบว่า

1. การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 78.74/78.60 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 75/75

2. นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานมีความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ อยู่ในระดับมีความพึงพอใจมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.44