Please use this identifier to cite or link to this item: http://202.28.34.124/dspace/handle123456789/2517
Title: The Development of Summary Writing Skill Using a 5-Step Learning Activity (5 STEPs) together with an Exercise for Mathayomsuksa 3 Students
การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความ โดยใช้กิจกรรมจัดการเรียนรู้แบบ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ร่วมกับแบบฝึกทักษะสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
Authors: Supunnee Sudson
สุพรรณี สุดสนธิ์
Atthapon Intasena
อัฐพล อินต๊ะเสนา
Mahasarakham University
Atthapon Intasena
อัฐพล อินต๊ะเสนา
Autthapon.in@gmail.com
Autthapon.in@gmail.com
Keywords: การพัฒนาทักษะ
การเขียนย่อความ
การจัดการเรียนรู้แบบ 5 ขั้นตอน (STEPs)
แบบฝึกทักษะ
The Development of Skill
Summary Writing
5 Step Learning
Skill Exercise
Issue Date:  22
Publisher: Mahasarakham University
Abstract: The purposes of this research were 1) to develop a learning management plans on a summary writing skill using the 5 STEPs learning activity and an exercise for Mathayomsuksa 3 students to achieve an efficiency of 75/75, 2) to compare the summary writing skill of Mathayomsuksa 3 students with the criteria of 75%, 3) to find the learning efficiency index, and 4) to study the satisfaction level of the students towards the learning activity using the 5 STEPs learning activity and an exercise. The target group for this study was 18 students of Mathayomsuksa 3 from Ban Na Ang School, Bueng Khong Long District, Bueng Kan Province, in the 2nd semester of the academic year 2022. The research tools used were 1) 5 learning management plans on the summary writing skill using the 5 STEPs learning activity and an exercise, totaling 12 hours, 2) a 30-item multiple-choice achievement test on the writing skill, and 3) a satisfaction questionnaire. The statistical analysis used in this research included mean, standard deviation, and dependent samples t-test. The results of this study were as followings: 1. The learning management plans on a summary writing skill using the 5 STEPs learning activity and an exercise for Mathayomsuksa 3 students had an efficiency (E1/E2) with a score of 78.37/79.26, which was higher than the set criteria of 75%. 2. The comparison of the Mathayomsuksa 3 students’ summary writing skill of using the 5 STEPs learning activity together with an exercise showed that their average score (x̄= 23.78, S.D. = 1.13) after studying was significantly higher than the criteria of 75% at the .05 level. 3. The results of studying efficiency index by using the learning management plans on the subject of summary writing skills by applying the 5-step learning activity (5 STEPs) and an exercise for Mathayomsuksa 3 students was found that the value was 0.7053 or 70.53%. The students had a better development than before studying. 4. The satisfaction of Mathayomsuksa 3 students after receiving the learning management on the summary writing skills by using the 5 STEPs learning activity together with an exercise overall was at a high level (x̄= 4.16, S.D. = 0.70).
การวิจัยนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการเขียนย่อความ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ร่วมกับแบบฝึก สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบทักษะการเขียนย่อความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กับเกณฑ์ร้อยละ 75 3) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของการเรียน และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ร่วมกับแบบฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านนาอ่าง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 18 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องย่อความ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ร่วมกับแบบฝึกทักษะ จำนวน 5 แผน จำนวน 12 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบทักษะการเขียนย่อความ ชนิดปรนัย จำนวน 30 ข้อ และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t-test (Dependent Samples) ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้     1. ผลการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การเขียนย่อความ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ร่วมกับแบบฝึก สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ  (E1/E2)  เท่ากับ 78.37/79.26  ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้     2. ผลการเปรียบเทียบทักษะการเขียนย่อความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ร่วมกับแบบฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนเฉลี่ย (x̄= 23.78, S.D. = 1.13) หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05     3. ผลการศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การเขียนย่อความ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ร่วมกับแบบฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า มีค่าเท่ากับ 0.7053 หรือคิดเป็นร้อยละ 70.53 จึงเห็นได้ว่า นักเรียนมีพัฒนาการที่สูงขึ้นกว่าก่อนเรียน    4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังได้รับการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การเขียนย่อความ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ร่วมกับแบบฝึกทักษะ โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก (x̄= 4.16, S.D. = 0.70)
URI: http://202.28.34.124/dspace/handle123456789/2517
Appears in Collections:The Faculty of Education

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
64010582029.pdf12.18 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.