Develop teaching activities in accordance with the KWL-Plus teaching method, combined with mind mapping techniques, to enhance reading comprehension skills for Secondary 3 students.

Abstract

The objective of this research is to 1) create learning activities that utilize the KWL-Plus teaching method in conjunction with mind mapping techniques to enhance reading comprehension skills in accordance with the 75/75 criterion. 2) Analyze the efficacy index of activities by employing the KWL-Plus instructional approach in conjunction with mind mapping strategies to enhance reading comprehension proficiency. 3) Evaluate student contentment with the learning management system by utilizing the KWL-Plus model to enhance the reading comprehension skills of Secondary 3 pupils. The target demographic comprises 25 students in a single classroom, namely Secondary 3 pupils from Mahachai Pittayakhan School, under the purview of the Secondary Educational Service Area Office, during Semester 2 of the academic year 2023. Three distinct categories of instruments are utilized in this research: 1) A learning management plan has been developed for Secondary 3 students, utilizing the KWL-Plus teaching method in conjunction with the mind mapping approach. The plan consists of six sessions, each lasting two hours, resulting in a total of 12 hours of instruction. The learning management plan's appropriateness received an extremely high overall evaluation score (x̅ = 4.73). 2) This is a test designed to assess the reading comprehension skills of Secondary 3 students. It has 30 multiple-choice questions, each with four alternatives. The difficulty level of the questions ranges from 0.65 to 0.78, while the discriminating power ranges from 0.24 to 0.76. The overall reliability of the test is 0.92. 3) A satisfaction evaluation model was developed to assess the experience of Secondary 3 students who engaged in learning activities using the KWL-Plus teaching method in combination with the mind mapping approach. The model consists of 10 items, each having a discriminatory power ranging from 0.53 to 0.94. The overall reliability of the model is 0.94. The statistical measures employed in data analysis encompass percentage, mean, standard deviation.

The research findings are as follows:

1) The integration of the KWL-Plus learning management plan with student mind maps for Secondary 3 demonstrated an efficiency rate of 82.81 out of 86.93, which successfully met the stipulated threshold of 75 out of 75.

2) The learning management system, which utilized the KWL-Plus teaching method in conjunction with the concept map methodology, achieved an effectiveness index of 0.82 for Secondary 3 pupils. This indicates a significant increase in learning progress of 0.8200, equivalent to 82 percent.

3) The students in Secondary 3 who utilized the KWL-Plus learning management system in conjunction with mind maps reported the highest degree of satisfaction. (x̅ = 4.85, S.D. = 0.34)

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบ KWL - Plus ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด (Mind mapping) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบ KWL - Plus ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด (Mind mapping) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบ KWL - Plus ที่ส่งเสริมการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มเป้าหมายคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนมหาชัยพิทยาคาร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 25 คน 1 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ มีทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL - Plus ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด จำนวน 6 แผน รวมเป็น 12 ชั่วโมง ซึ่งคะแนนประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก (x̅ = 4.73) 2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่ายระหว่าง 0.42 – 0.78 และมีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.24 – 0.76 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังจัดกิจกรรม การเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL - Plus ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด จำนวน 10 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.53 – 0.94 และมีความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.94 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

จากการศึกษาการพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนตามวิธีการสอนแบบ KWL – Plus ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด (Mind mapping) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผู้วิจัยสรุปผลได้ดังนี้

1. แผนการจัดการเรียนรู้แบบ KWL – Plus ร่วมกับแผนผังความคิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.81 /86.93 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 75/75

2. ดัชนีประสิทธิผลการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบ KWL – Plus ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.82 นั่นคือผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้เพิ่มขึ้นเท่ากับ 0.8200 หรือคิดเป็นร้อยละ 82

3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบ KWL – Plus ร่วมกับแผนผังความคิดที่ส่งเสริมการอ่านจับใจความ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅ = 4.85, S.D. = 0.34)