The Development of School Dropout Risk Prevention of Students by using PDCA Cycle of Collages in the Affiliation Vocational Education in Roi Et Province

Abstract

This research aims to 1) study current condition, the desirable condition and the necessity for the school dropout risk prevention of students by Using PDCA Cycle of colleges in the affiliation vocational education in Roi Et Province. 2) develop of the school dropout risk prevention of students by Using PDCA Cycle of colleges in the affiliation vocational education in Roi Et Province. The sample group used in the research consisted of 32 school administrators and 217 teachers, total 249 people. This was obtained by sample size determination (Krejcie and Morgan). The tools used in the research include the five-rating scale questionnaire (Likert), the semi-structured interview and the evaluation of the possibility. The statistic used in this research was average and standard deviation.

The result found that the current condition for the school dropout risk prevention of students by Using PDCA Cycle of colleges in the affiliation vocational education in Roi Et Province, the overall level was at moderate level. The desirable condition for the school dropout risk prevention of students by Using PDCA Cycle of colleges in the affiliation vocational education in Roi Et Province, the overall level was highest. Ranking in the order of the necessity from high to low as student individual knowledge, student screening, student promotion and development, and student prevention and assistance. The result of the school dropout risk prevention of students by Using PDCA Cycle of colleges in the affiliation vocational education in Roi Et Province found that they were 5 parts and 26 ways: student individual knowledge has 6 ways, student screening has 5 ways, student promotion and development have 5 ways, and student prevention and assistance have 5 ways. Overall the appropriateness was at the highest level (x̅ = 4.61, S.D. = 0.52) and the probability was at the highest level (x̅ = 4.59, S.D. = 0.52). The evaluation of the appropriateness was at the highest level as 4.61 and the probability was at the highest level was 4.59.

การวิจัยนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นในการดำเนินงานแก้ปัญหาการออกกลางคันของนักเรียนโดยใช้วงจรคุณภาพ PDCA วิทยาลัยในสังกัดอาชีวศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด 2) เพื่อสร้างแนวทางการดำเนินงานแก้ปัญหาการออกกลางคันของนักเรียนโดยใช้วงจรคุณภาพ PDCA วิทยาลัยในสังกัดอาชีวศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหาร 32 คน และครูในสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 217 คน รวม 249 คน ได้มาโดยการเทียบจำนวนประชากรทั้งหมดกับตารางกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างของเครจซี่และมอร์แกน ให้ได้มาซึ่งกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ของลิเคอร์ท (Likert) แบบสัมภาษณ์ และแบบประเมินความเหมาะสมเป็นไปได้ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัจจุบันของการดำเนินงานแก้ปัญหาการออกกลางคันของนักเรียนโดยใช้วงจรคุณภาพ PDCA วิทยาลัยในสังกัดอาชีวศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง สภาพที่พึงประสงค์ของการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการออกกลางคันของนักเรียนโดยใช้วงจรคุณภาพ PDCA วิทยาลัยในสังกัดอาชีวศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ความต้องการจำเป็นการดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือนักเรียนในการเรียนโดยใช้วงจรคุณภาพ PDCA เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงลำดับความต้องการจำเป็นจากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้ ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ด้านการคัดกรองนักเรียน ด้านการพัฒนาและส่งเสริมนักเรียน ด้านการป้องกันและการแก้ไขและด้านการส่งต่อตามลำดับ และมีผลการประเมินแนวทางการดำเนินงานแก้ปัญหาการออกกลางคันของนักเรียนโดยใช้วงจรคุณภาพ PDCA วิทยาลัยในสังกัดอาชีวศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีทั้งหมด 5 ด้าน 26 แนวทาง ดังนี้ ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล มี 6 แนวทาง ด้านการคัดกรองนักเรียน มี 5 แนวทาง ด้านการพัฒนาและส่งเสริม มี 5 แนวทาง ด้านการป้องกันและการแก้ไขปัญหานักเรียน 5 แนวทาง และด้านการส่งต่อ มี 5 แนวทาง ผลการประเมินด้านความเหมาะสม โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅ = 4.61, S.D. = 0.52) และด้านความเป็นไปได้ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅ = 4.59, S.D. = 0.52) ตามลำดับ และผลการประเมินด้านความเหมาะสม โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 4.61 และด้านความเป็นไปได้ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 4.59 ตามลำดับ