THE APPLICATION OF INFORMATION TECHNOLOGY IN CUSTOMER MANAGEMENT FOR PROFIT-LEVERAGING ACCOUNTABILITY IN RETAIL AND MANUFACTURING SECTORS THROUGH SUPPLY CHAIN SYNCHRONIZATION

Abstract

This research studies the outcome of using a consumer adherence’s information technology management platform to improve the efficiency of retailer and manufacturer business operations, to increase the profit gain in the end. The author seeks to analyze retailers’ business processes and efficiencies, to improve management efficiency both in retailing and manufacturing. Information inputs were stored in a retrievable database and analyzed by statistics analyzing software.

Tools for gathering information for retail consumer supplement use adherence were created, and functionally operated on a website. Retailers’ consumers’ information was collected and data were synchronized with the retailer’s system to suggest increase in efficiency by the web tool product. Businesses’ analysis of some operations was evaluated using common statistics for business tasks. Sets of questionnaires were given to retailers and to manufacturers to evaluate their efficiency in performing each evaluated task. Efficiencies of retailers’ and manufacturers’ management operations were statistically evaluated for task efficacy. Hypotheses were tested to determine if overall efficacy led to leveraging profit gains within each quarter of operation, within a 6 months period.

In conclusion, research finds that synchronization has helped retailers and manufacturers to manage their daily work, make a correct marketing plan, and forecast a supply chain that can take on tomorrow’s market challenges.

Data suggests a good outcome for customers, retailers, and manufacturers, and that synchronization can help make consumers’ daily lives more convenient. Retailers’ and manufacturer’ daily work was optimized, their plannings easier to forecast, and their supply chain more efficient, with better logistics seen. Further research findings can be suggested: That with web tracking, a better interactive platform in terms of a social media-like system can be derived, and in the future can be made into a digital patronage that can interact more with customers and bring more data to retailers and manufacturers that can help them make plans more clearly.

งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการศึกษาการเพิ่มกำไรขององค์กรโดยการประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้ามาเสริมการบริหาร และดูประสิทธิภาพ สมรรถภาพการบริหารของธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง และโรงงานผลิตตลอดจนการส่งสินค้า นอกจากนี้ยังศึกษาถึงเรื่องรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการประหยัดขององค์กร การเพิ่มกำลังผลิตในภาคอุตสาหกรรมจากการประหยัดโดยการซื้อวัตถุดิบมาผลิตเพิ่มเมื่อองค์กรมีสภาวะการค้าคล่อง มีความคล่องตัวทางการเงินมากกว่าเดิม ทำให้เกิดความยั่งยืนทางธุรกิจของทุกฝ่ายๆที่ให้ความร่วมมือกันเป็นกลุ่มพันธมิตร

การศึกษานี้ใช้ระบบเว็บทำการเก็บข้อมูลการใช้งานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของลูกค้าที่ซื้อจากร้านค้าปลีกนำไปปรับปรุงโดยการทำงานพร้อมกันขององค์กรที่เกี่ยวข้อง คือร้านยา และโรงงานอุตสาหกรรมผลิตยาขององค์กรเภสัชกรรม และทำการประมวลผลประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานสมรรถภาพของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันโดยใช้แบบสอบถามเพื่อให้ได้ข้อสรุปในส่วนของสมมติฐานที่ได้จำแนกไว้

การศึกษาใช้เวลา 6 เดือนเพื่อนำมาซึ่งข้อสรุป การอภิปราย และข้อเสนอแนะการวิจัยในอนาคต หลังจากทำการเก็บข้อมูลพบว่าการใช้ระบบเว็บไซต์เมื่อนำมาบริหารข้อมูลสำหรับลูกค้า ทำให้การบริหารร้านค้าทำได้ดีขึ้นตลอดจนการบริหารโรงงงาน ทำให้มองเห็นข้อมูลสำคัญใช้สำหรับบริหารจำนวนสินค้าคงคลังให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยเกิดขึ้นตลอดสายการบริหารการผลิต บริหารบุคลากร การตลาด และการจัดซื้อ

การวิจัยนี้สรุปได้ว่าการใช้ระบบเว็บมีประสิทธิภาพในการสร้างข้อมูลอันเป็นประโยชน์ในการใช้งานสำหรับบริหาร สามารถเพิ่มกำไรจากการประหยัด การเพิ่มกำไรจากการทำงานพร้อมกันโดยมีระบบเว็บเป็นระบบรายงานข้อมูล หากพัฒนาต่อจะสามารถบริหารลูกค้าได้มากกว่า เมื่อสามารถทำการใช้งานได้มากกว่าเช่นการพัฒนาไปเป็นเชิงระบบสารสนเทศทางสังคม ซึ่งสามารถพัฒนาไปเป็น