The Relationship between Fraud Prevention and Operation Efficiency of Construction Business in Thailand

Abstract

In the operation of the construction businesses, entrepreneurs would like the ultimate goal of the operation. That is the results of operations are appropriate to the risk and the time spent in the operation. Think, the construction businesses has a process that has risks in life safety and the quite high of property. Therefore, requires a internal control of strong system, the operational processes and prevent can fraud prevention on effectively. Thus the researcher conducted a study of the relationship between fraud prevention of operation efficiency on construction businesses in Thailand by collecting data from 111 entrepreneur of construction businesses in Thailand a questionnaire as an instrument. The statistics used for analyzing the collected data were t-test, F-test (ANOVA and MANOVA), multiple correlation analysis, simple regression analysis and multiple regression analysis.

The finding revealed that the entrepreneur of construction businesses in Thailand agreed with having fraud prevention as a whole and in each of the following aspects at a high level: control activity, segregation of duties, position transfers and accounting control. Moreover, entrepreneur of construction businesses in Thailand agreed with having fraud prevention as a whole and in each of the following aspects at a high level: goal accomplishment, procuring and resource using, operations processes and participant satisfaction.

The entrepreneur of construction businesses in Thailand with different type of contractor agreed differently with having fraud prevention as a whole and in the aspect of control activity, segregation of duties, position transfers and accounting control. Moreover, entrepreneur of construction businesses in Thailand with main contractor agreed differently with having fraud prevention over on subcontractor.

The entrepreneur of construction businesses in Thailand with different type of contractor agreed differently with having operation efficiency as a whole and in a operations processes. Moreover, entrepreneur of construction businesses in Thailand with main contractor agreed differently with having operation efficiency over on subcontractor.

According to analyses of the data in terms of relationships and effects, the followings were found: (1) fraud prevention in the aspect of control activity had positive relationship with and effects on operation efficiency as a whole and in the aspects of goal accomplishment and procuring and resource using ; 2) fraud prevention in the aspect of segregation of duties had positive relationship with and effects on operation efficiency in a operations processes ; 3) fraud prevention in the aspect of position transfers had positive relationship with and effects on operation efficiency as a whole and in a goal accomplishment ; 4) fraud prevention in the aspect of accounting control had positive relationship with and effects on operation efficiency in a operations processes. And, 5) fraud prevention no relationship with and effects on operation efficiency in a participant satisfaction.

In conclusion, the fraud prevention had positive relationships with and effects of operation efficiency on construction businesses in Thailand. Therefore, the entrepreneur of construction businesses in Thailand should information obtained from this research used to plan and improve methods for fraud prevention to create in the operation success. Moreover, the results of research are also beneficial to other businesses that interested to use as a guideline for the development on operation of business. Furthermore create a businesses in advantage competitive.

ในการดำเนินงานของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ผู้ประกอบการย่อมต้องการเป้าหมายสูงสุดในการดำเนินการ นั่นคือผลการประกอบการที่เหมาะสมกับความเสี่ยง และเวลาที่ใช้ไปในการดำเนินกิจการ ดังที่รู้กันดีว่าธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีกระบวนการดำเนินงานที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินค่อนข้างสูง จึงต้องมีการอาศัยระบบการควบคุมภายในที่รัดกุมสำหรับกระบวนการดำเนินงาน และสามารถป้องกันการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ผู้วิจัยจึงได้สนใจศึกษาวิจัย ความสัมพันธ์ระหว่างการป้องกันการทุจริตกับประสิทธิภาพการดำเนินงานของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทย โดยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทย จำนวน 111 ราย และใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ t-test F-test (ANOVA และ MANOVA) การวิเคราะห์สหสัมพันธ์แบบพหุคูณ วิเคราะห์การถดถอยอย่างง่าย และการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ

ผลการวิจัยพบว่า ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตอยู่ในระดับมากทุกด้าน ได้แก่ ด้านกิจกรรมควบคุม ด้านการแบ่งแยกหน้าที่การงาน ด้านการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งงาน และด้านการควบคุมทางบัญชี และผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพการดำเนินงาน อยู่ในระดับมากทุกด้าน ได้แก่ ด้านการบรรลุเป้าหมายความสำเร็จ ด้านการจัดหาและใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า ด้านกระบวนการปฏิบัติงาน และด้านความพึงพอใจของทุกฝ่าย

ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทยที่มีประเภทของผู้รับเหมาแตกต่างกันมีความคิดเห็นด้วยเกี่ยวกับการป้องกันทุจริต ด้านกิจกรรมควบคุม ด้านการแบ่งแยกหน้าที่การงาน ด้านการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งงาน และด้านการควบคุมทางบัญชีแตกต่างกัน โดยผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทยที่เป็นผู้รับเหมาหลัก มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตมากกว่าผู้รับเหมาช่วง

ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทยที่มีประเภทของผู้รับเหมาแตกต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพการดำเนินงาน ด้านกระบวนการปฏิบัติงานแตกต่างกัน โดยผู้รับเหมาหลักมีความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านกระบวนการปฏิบัติงานมากกว่าผู้รับเหมาช่วง

จากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์และผลกระทบของการป้องกันการทุจริตและประสิทธิภาพการดำเนินงาน พบว่า 1) การป้องกันการทุจริต ด้านกิจกรรมควบคุม มีความสัมพันธ์และผลกระทบเชิงบวกกับประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยรวม ด้านการบรรลุเป้าหมายความสำเร็จ และด้านการจัดหา และใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า 2) การป้องกันการทุจริต ด้านการแบ่งแยกหน้าที่การงาน มีความสัมพันธ์และผลกระทบเชิงบวกกับประสิทธิภาพการดำเนินงาน ด้านกระบวนการปฏิบัติงาน 3) การป้องกันการทุจริต ด้านการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งงาน มีความสัมพันธ์และผลกระทบเชิงบวกกับประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยรวม และด้านการบรรลุเป้าหมายความสำเร็จ 4) การป้องกันการทุจริต ด้านการควบคุมทางบัญชี มีความสัมพันธ์ และผลกระทบเชิงบวกกับประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านกระบวนการปฏิบัติงาน 5) การป้องกันการทุจริต ไม่มีความสัมพันธ์และผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดำเนินงาน ด้านความพึงพอใจของทุกฝ่าย

โดยสรุป การป้องกันการทุจริตมีความสัมพันธ์และผลกระทบกับประสิทธิภาพการดำเนินงานของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทย ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทยควรนำข้อสนเทศที่ได้จากการวิจัยในครั้งนี้ไปใช้ในการวางแผนปรับปรุงวิธีการในการป้องกันการทุจริตในองค์กร เพื่อก่อให้เกิดความสำเร็จในการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ผลการวิจัยในครั้งนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอื่นที่สนใจนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการดำเนินงานของธุรกิจ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในอนาคตต่อไป