Please use this identifier to cite or link to this item: http://202.28.34.124/dspace/handle123456789/1046
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributorChaturapat Massophaen
dc.contributorจตุรภัทร มาศโสภาth
dc.contributor.advisorMontree Wongsaphanen
dc.contributor.advisorมนตรี วงษ์สะพานth
dc.contributor.otherMahasarakham University. The Faculty of Educationen
dc.date.accessioned2021-09-05T09:26:38Z-
dc.date.available2021-09-05T09:26:38Z-
dc.date.issued13/6/2020
dc.identifier.urihttp://202.28.34.124/dspace/handle123456789/1046-
dc.descriptionMaster of Education (M.Ed.)en
dc.descriptionการศึกษามหาบัณฑิต (กศ.ม.)th
dc.description.abstractThe purposes of this research were to 1) study  Scientific Literacy of 10th Grade Students’ In The Secondary Education Service Area 26 Mahasarakham Province 2) development of Learning Activity Socioscientific Issues  with Flipped Classroom for 10th Grade Students’ 3) study result of Learning Activity Socioscientific Issues  with Flipped Classroom include Sub purpose  3.1) development learning achievement of 10th Grade Students’ Studied with Learning Activity Socioscientific Issues  with Flipped Classroom to pass the criterion of 75 percent  3.2) development Scientific Literacy Studied with Learning Activity Socioscientific Issues  with Flipped Classroom have level higher scientific literacy.  The research sample as follows: phases 1 were 100 of 10th grade students in the secondary education service   area 26   in the first semester of the academic year 2019 . They were selected by  Multi-stage random sampling. phases 2  were 27 of 10th grade students class 4  Phadungnaree School in the second semester of the academic year 2019. They were selected by  Cluster Random Sampling. phases 3  were 32 of 10th grade students class 3  Phadungnaree School in the second semester of the academic year 2019. They were selected by  Cluster Random Sampling. The instruments used in the study were 1) lesson plans for Socioscientific Issues  with Flipped Classroom  2) achievement test and 3) scientific literacy test . The statistical method employed for data analysis were percentage, mean, standard deviation, F-test and  t-test (One Sample). The results of the research were as follows: 1) 10th Grade Students’ In The Secondary Education Service Area 26 Mahasarakham Province the level of scientific literacy at 2 level  2) 10th Grade Students’ In The Secondary Education Service Area 26 Mahasarakham Province the level of scientific literacy not different. 3)The learning plan activity by using Socioscientific Issues  with Flipped Classroom for 10th Grade Students’. The quality of plan 4.20 at the level very Appropriate  and had an efficiency of 80.44 / 77.22.  4) 10th grade students class 3 learned by using Socioscientific Issues  with Flipped Classroom  pass the 75 percent criterion at .05 level of significance. 5) 10th grade students class 3 learned by using Socioscientific Issues  with Flipped Classroom have higher scientific literacy at level 3.en
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาการรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขตที่ 26 จังหวัดมหาสารคาม 2) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ประเด็นวิทยาศาสตร์กับสังคมร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ประเด็นวิทยาศาสตร์กับสังคมร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน โดยมีวัตถุประสงค์ย่อยดังนี้  3.1) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประเด็นวิทยาศาสตร์กับสังคมร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้านให้ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 75  3.2) เพื่อพัฒนาการรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4  ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประเด็นวิทยาศาสตร์กับสังคมร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ให้มีระดับการรู้วิทยาศาสตร์ที่สูงขึ้น โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัย ระยะที่ 1 คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 จำนวน 100 คน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ได้มาโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน ระยะที่ 2 คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/4  โรงเรียนผดุงนารี จำนวน 27  คน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562  ได้มาโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม และ ระยะที่ 3 คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3  โรงเรียนผดุงนารี จำนวน 32  คน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562  ได้มาโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ประเด็นวิทยาศาสตร์กับสังคมร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน  แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ แบบทดสอบการรู้วิทยาศาสตร์ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย, ร้อยละ, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าเอฟ (F-test) และสถิติแบบทดสอบ t-test (One Sample)  ผลการวิจัยปรากฏดังนี้ 1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26  จังหวัดมหาสารคาม มีการรู้วิทยาศาสตร์ระดับที่ 2  2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26  จังหวัดมหาสารคาม มีระดับการรู้วิทยาศาสตร์ไม่แตกต่างกัน 3) แผนการการจัดการเรียนรู้ประเด็นวิทยาศาสตร์กับสังคมร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้านมีประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ (E1 / E2 ) เท่ากับ 80.44 / 77.22  4) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 ที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ประเด็นวิทยาศาสตร์กับสังคมร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 ที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ประเด็นวิทยาศาสตร์กับสังคมร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน มีระดับการรู้วิทยาศาสตร์สูงขึ้นที่ระดับ 3th
dc.language.isoth
dc.publisherMahasarakham University
dc.rightsMahasarakham University
dc.subjectผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนth
dc.subjectการรู้วิทยาศาสตร์th
dc.subjectประเด็นวิทยาศาสตร์กับสังคมth
dc.subjectแนวคิดห้องเรียนกลับด้านth
dc.subjectlearning achievementen
dc.subjectScientific literacyen
dc.subjectSocioscientific Issuesen
dc.subjectFlipped Classroomen
dc.subject.classificationSocial Sciencesen
dc.titleThe Development of Learning Activity Socioscientific Issues  with Flipped Classroom to  Enhancing Scientific Literacy for Grade 10 Studentsen
dc.titleการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ประเด็นวิทยาศาสตร์กับสังคมร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้านเพื่อส่งเสริมการรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4   th
dc.typeThesisen
dc.typeวิทยานิพนธ์th
Appears in Collections:The Faculty of Education

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
60010556015.pdf4.98 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.