The Efficiency Improvement of the Automation for the Lighting and Compositing Works in 3D Animation Industry

Abstract

The objectives of this research are: 1) to study on lighting and double exposure in Thailand’s 3D animation industry; 2) to develop Application for Automatic Lighting and Double Exposure; 3) to evaluate efficiency of Application for Automatic Lighting and Double Exposure. Tools used for evaluating efficiency were: 1) Application for Automatic Lighting and Double Exposure; 2) Correctness Checklist on Lighting and Composition; 3) Performance test of application program for lighting and shadow design and automatic photo stacking. The researcher applied System Development Life Cycle (SDLC) to this research whereas this Application was developed by using Mel Script Editer in Maya and Nuke Script Editer in Nuke. Subsequently, developed Application was tested with the target group consisted of 28 persons from 7 companies in 3D animation industry whereas correctness was checked by 7 experts from 7 companies in 3D animation industry. The findings revealed that: 1) lighting and double exposure was considered as a kind of art of illustration whereas lighting and double exposure was important to build emotion of audiences to meet with emotion of the current content; 2) Application for Automatic Lighting and Double Exposure was obtained in order to display important commands on enhancement, title, lighting, and image processing for classification only; 3) The result of evaluation on efficiency of Application for Automatic Lighting and Double Exposure revealed that it could help to save time, improve correctness, and lower production cost.

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาการจัดแสงเงาและการซ้อนภาพในงานอุตสาหกรรมแอนิเมชัน 3 มิติของประเทศไทย 2) เพื่อพัฒนาโปรแกรมประยุกต์สำหรับการจัดแสงเงาและการซ้อนภาพแบบอัตโนมัติ 3) เพื่อประเมินประสิทธิภาพโปรแกรมประยุกต์สำหรับการจัดแสงเงาและการซ้อนภาพแบบอัตโนมัติ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) โปรแกรมประยุกต์สำหรับการจัดแสงเงาและการซ้อนภาพแบบอัตโนมัติ 2) แบบทดสอบคุณภาพโปรแกรมประยุกต์สำหรับการจัดแสงเงาและการซ้อนภาพ 3) แบบประเมินประสิทธิภาพด้านเวลาและความถูกต้อง โดยผู้วิจัยได้นำทฤษฎีวงจรการพัฒนาระบบสารสนเทศ มาประยุกต์ใช้ (System Development Life Cycle : SDLC) ซึ่งใช้ Mel Script Editer ในโปรแกรม Maya และ Nuke Script Editer ในโปรแกรม Nuke พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ขึ้นมา โดยได้นำไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง 28 คน จาก 7 บริษัทภาคอุตสาหกรรม และ ตรวจสอบความถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ 7 ท่านจาก 7 บริษัทภาคอุตสาหกรรม ซึ่งผลการวิจัยพบว่า 1) การจัดแสงเงาและการซ้อนภาพเป็นศิลปะอย่างหนึ่งของการเล่าเรื่องด้ายภาพมีส่วนสำคัญในการสร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนดูให้สอดคล้องกับอารมณ์ของเนื้อเรื่องในขณะนั้น 2) ได้โปรแกรมประยุกต์สำหรับการจัดแสงเงาและการซ้อนภาพ ได้แสดงเฉพาะคำสั่งที่สำคัญในการปรับแต่ง ตั้งชื่องาน การจัดแสงเงา การประมวลผลภาพแบบหมวดหมู่ 3) ประสิทธิภาพโปรแกรมประยุกต์ สามารถช่วยลดเวลา เพิ่มความถูกต้อง และช่วยลดต้นทุนในการผลิตงานได้อีกด้วย