Please use this identifier to cite or link to this item: http://202.28.34.124/dspace/handle123456789/1292
Title: Development   Mathematics Learning Achievement and Mathematical Problem Solving Ability on Equation of the Level 1 Vocational Certificate Students using Cooperative Learning Technique LT
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์และความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง  สมการ  ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ  ชั้นปีที่  1  โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค  LT
Authors: Nuttapong Chaluyrat
ณัฐพงษ์  ชลุยรัตน์
Nongluk Viriyapong
นงลักษณ์ วิริยะพงษ์
Mahasarakham University. The Faculty of Science
Keywords: การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์
การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT
Development Mathematics Learning Achievement
Cooperative Learning Technique LT
Issue Date:  17
Publisher: Mahasarakham University
Abstract: The purpose of this research are to investigate the effect of problem-based learning on (1) To development of mathematics subject learning plan for vocational certificate level 1 student. By LT practice and convertional approach on subject of equations. Fllowing the standard efficiency 75/75 (2) To study the learning efficiency achievment of vocational certificate level 1 student (3) To compare the Learning achievment of equations subject (4) To compare performance of how to solution the mathematics problems by LT practice and conventionaI approach.The data were collected from 50 student of vocational certicate level 1 of Nakhonpanom University By group random ness (Cluster Random Sampling) to divided into group control.  The results were as Follows:  1. The efficiency of learning by LT  Practice and and normal learning  Practice 84.74 / 82.40 and 79.24 / 76.93, respectively, which is higher than the specified 75/75 threshold.  2. With regard to the pupil's learning by achievment in mathematics analytical skill, It was 66 % and 61 % bt standard   3. The mean score of the pupil's achievment and skill of mathenatical problem solring and control group ware statisticallr significant differences as at the 0.05 of significance.   4. Year 1 vocational certificate students at Study by learning management Cooperative techniques LT (Learning Together) has the ability to Solving mathematical problems on equations higher than students Study by normal learning management Statistically significant At the level of .05  In condusion, LT's technical cooperation management plan Learning Together Mathematics Of students Year 1 vocational certificate on equations that the researcher Developed with efficiency and effectiveness Make the learners Studying with such training form has academic achievement and Ability to solve higher mathematical problems, so teachers can be used in cooperative learning management techniques. LT (Learning Together) can be used in teaching and learning.
คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาความคิดมนุษย์   ทำให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์   คิดอย่างมีเหตุผล   เป็นระบบ มีแบบแผน  สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ  ช่วยให้คาดการณ์การศึกษาคณิตศาสตร์เป็นการศึกษาที่เปิดโอกาสให้เยาวชนทุกคนได้เรียนรู้คณิตศาสตร์อย่างต่อเนื่องและตลอดชีวิตตามศักยภาพ   ทั้งนี้เพื่อให้เยาวชนเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถทางคณิตศาสตร์ที่พอเพียง สามารถนำความรู้ ทักษะ และกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่จำเป็นไปพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น  ดังนั้น   การวิจัยในครั้งนี้จึงมีความมุ่งหมายเพื่อ  (1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์   ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่  1  ที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT  และการจัดการเรียนรู้แบบปกติ เรื่อง สมการ   ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์  75/75   (2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์   ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 1  ที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT  และการจัดการเรียนรู้แบบปกติ  เรื่อง สมการ  (3)  เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์   เรื่อง สมการ   ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่  1  ที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค  LT   และการจัดการเรียนรู้แบบปกติ    และ  (4) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์  เรื่อง สมการ  ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ  ชั้นปีที่  1  ที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค  LT  และการจัดการเรียนรู้แบบปกติ  กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้  คือ  นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ  ชั้นปีที่ 1   คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม    มหาวิทยาลัยนครพนม  ที่เรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561  จำนวน  50  คน  ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม   (Cluster Random Sampling)   เพื่อแบ่งเป็นกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง  กลุ่มละ 25 คน    เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย  แผนการจัดการเรียนรู้  จำนวน 2 แบบ ๆ ละ 9 แผน ทำการสอนแผนละ 2 ชั่วโมงโดยแผนการจัดการเรียนรู้  เรื่อง สมการ   ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ  ชั้นปีที่ 1   โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นแบบปกติ ใช้ในการสอนกลุ่มควบคุม  และแผนการจัดการเรียนรู้  เรื่อง สมการ    ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ  ชั้นปีที่ 1   โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค  LT  ใช้ในการสอนกลุ่มทดลอง  และแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ  มีจำนวน 2 ฉบับ  ได้แก่ แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์  ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น  เป็นแบบอัตนัย   จำนวน   6  ข้อ  และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์พื้นฐานอาชีพ   ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ  ชั้นปีที่ 1 เรื่อง สมการ  เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ   4   ตัวเลือก   จำนวน   30   ข้อ   ผลการศึกษาพบว่า    1. ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT   และการจัดการเรียนรู้แบบปกติ  วิชาคณิตศาสตร์  เรื่องสมการ  ของนักเรียนระดับประกาศวิชาชีพ  มีค่าเท่ากับ  84.74/82.40  และ  79.24/76.93  ตามลำดับ  ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์  75/75  ที่กำหนดไว้   2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT   และการจัดการเรียนรู้แบบปกติ     วิชาคณิตศาสตร์  เรื่องสมการ  ของนักเรียนระดับประกาศวิชาชีพ ชั้นปีที่  1  เท่ากับ   0.66   และ 0.61   ตามลำดับ   3. นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ  ชั้นปีที่ 1  ที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค  LT  มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่องสมการ  สูงกว่านักเรียนที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบปกติ  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ   .05   4. นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ  ชั้นปีที่ 1  ที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค  LT  มีความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์  เรื่องสมการ  สูงกว่านักเรียนที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบปกติ  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ   .05   โดยสรุปแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT   วิชาคณิตศาสตร์  เรื่องสมการ  ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ  ชั้นปีที่  1  ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหมาะสม  ทำให้ผู้เรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกดังกล่าวมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์สูงขึ้น   ดังนั้น   ครูผู้สอนคณิตศาสตร์สามารถนำแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT  ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้    
Description: Master of Science (M.Sc.)
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม.)
URI: http://202.28.34.124/dspace/handle123456789/1292
Appears in Collections:The Faculty of Science

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
59010283001.pdf2.18 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.