Performing Arts in the Light Show & Sound : The Legend of Naga Fireball,Nong Khai Province

Abstract

This research was a qualitative research with objectives were to study, developed performing arts in the show light and sounds: The legend of Naga fireball work in Nong Khai province, 2018 – 2020 and to study performing art forms appeared in the show light and sound : The legend of Naga fireball work in Nong Khai province, 2018 – 2020. The researcher used the research method by studying from the document, relevant research, interviews, observations, questionnaires, video medias, three knowledgeable people, ten performers and presented research results by descriptive analysis.

The finding of this research found that performing art forms appeared in the show light and sound : The legend of Naga fireball work in Nong Khai province, 2018 – 2020, There were nine forms were dramatics, native of Isan dance, Isan creative dance, Thai creative dance, Mor Lam, martial arts, fire club, puppeteer and singing of Sarapanya sermon in Isan. intending to proceed with the script. There are various forms of playing and performing arts of Northeastern folk styles merged throughout the period of the performance. Presented aesthetics to audiences of different ages in opus, invention of dance, costumes, scenes, music, light and sound, developed from the myths and beliefs about the serpent and the origin of the Mekong river, Naga fireball work, ordination and pray for rainfall of the Isan people.

From research, it can be seen that the performing arts that appear in the show light and sound, the legend of the Naga fireballs work, weren’t merely forms of dances. But there were also many forms of Isan performing arts that are presented to the audience for the inheritance of Isan art and culture and to reflect the beliefs. Isan people's faith in the Naga. To created identity and tourist attraction of Nong Khai province.

งานวิจัยฉบับนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษา พัฒนาการนาฏกรรมในงานแสดง แสง สี เสียง เปิดตำนานบั้งไฟพญานาค จังหวัดหนองคาย พ.ศ. 2561–2563 และ2)เพื่อศึกษารูปแบบการแสดง แสง สี เสียงเปิดตำนานบั้งไฟพญานาค จังหวัดหนองคายพ.ศ. 2561–2563 ผู้วิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยด้วยการศึกษาจากเอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การสัมภาษณ์ การสังเกต แบบสอบถาม และ สื่อวีดีทัศน์ ผู้รู้ จำนวน 3 คน ผู้ปฏิบัติ จำนวน 10 คน ประชาชนทั่วไป 10 คน และนำเสนอผลการวิจัยด้วยวิธีพรรณนาวิเคราะห์

ผลการวิจับพบว่า นาฏกรรมที่ปรากฏในการแสดง แสง เสียง เปิดตำนานบั้งไฟพญานาค จังหวัดหนองคาย พ.ศ.2561-2563 มี 9 รูปแบบคือ การแสดงละคร ฟ้อนอีสานอนุรักษ์ ฟ้อนอีสานสร้างสรรค์ นาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ หมอลำ ศิลปะการต่อสู้ กระบองไฟ เชิดหุ่น และการขับร้องสรภัญญะดำเนินเรื่องด้วยบทพากย์ มีการสอดแทรกการละเล่นและศิลปะการแสดง ผสานเข้าไว้ตลอดช่วงเวลาของการแสดงนำเสนอสุนทรียภาพสู่กลุ่มผู้ชมที่มีความหลากหลายช่วงวัย ในด้านบทประพันธ์ การประดิษฐ์ท่ารำ เครื่องแต่งกาย ฉาก ดนตรี แสงและเสียงมีการพัฒนาขึ้นจากมโนทัศน์ที่เกี่ยวกับตำนานและความเชื่อเรื่องพญานาคกับการกำเนิดแม่น้ำโขง ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค การบรรพชา และประเพณีขอฝนของชาวอีสาน

จากการวิจัยจะเห็นได้ว่านาฏกรรมที่ปรากฏในการแสดง แสง สี เสียง เปิดตำนานบั้งไฟพญานาคนั้นมิใช่มีเพียงรูปแบบการแสดงนาฏศิลป์เท่านั้น แต่ยังมีศิลปะการแสดงอีกหลากหลายรูปแบบเพื่อสืบสานศิลปวัฒนธรรมและสะท้อนความเชื่อ ความศรัทธาของชาวอีสานที่มีต่อพญานาค เพื่อสร้างอัตลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดหนองคาย