Development of a Model for Learning Environment Management Based on the Philosophy of Sufficiency Economy to Promote Higher Order Thinking Skills of Primary School Students in Small Schools under the Office of the Basic Education Commission

Abstract

This research and development aimed to develop a learning environment model based on the philosophy of sufficiency economy to promote higher thinking skills of primary school students in small schools Under the Office of the Basic Education Commission. There are 4 phases of the research process, consisting of:- Phase 1; studying current conditions; necessities and components of the model. The research tools were questionnaires, in-depth interviews. The sample group were 1,131 administrators, teachers and basic education committees of small schools under the Office of the Basic Education Commission. Phase 2, to develop the model. Phase 3, to study the results of using the model. The sample group consisted of 1 administrator, 2 teachers, 15 students. The research tools were the learning environment model, model manual, learning unit/learning activities. All 5 higher thinking skills test, a satisfaction questionnaire. The collected data were analyzed by means, standard deviation and t-test. At last the fourth phase, to evaluate and certify the model. The research tools were the model component evaluation and certifying forms, by a connoisseurship on a group of 9 experts. Data were analyzed by means and standard deviation.

The findings were as follows:

1. Survey results of current conditions necessity found that the overall current condition was at a relatively low level and the overall needs were at the highest level and the priority index of the needs needed for learning environment according to Economic Philosophy Sufficiency in small schools found that the needs and necessities were at the highest level.

2. The results of the model development found that:

2.1 The developed model consists of 5 components: 1) the principles, 2) The objectives, 3) the process and learning management, 4) the technology, and 5) the evaluation from the use of the model.

2.2 The manual for using the model consisted of learning units/learning activities. All 5 higher thinking skills test; including analytical thinking skill, synthetic thinking skill, critical thinking skill, creative thinking skills, and systematic thinking skills, and satisfaction questionnaire.

2.3 The result of inspection, evaluation and certification about the suitability of the components of the developed model found that the components of the model were most appropriate in all aspects.

3. The comparison of the average scores before and after learning of the student's learning unit found that after learning, the mean scores of high order thinking skills were higher than before, at the statistical significance level of .05.

4. The result of the evaluation and certification of the model found that:

4.1 Administrators, teachers, and basic education school committees were satisfied with the learning environment arrangement according to the model, and students were satisfied with the learning environment according to the model were at the highest level in all learning units and all learning bases.

4.2 The results of the evaluation and certification of the model by a connoisseurship based on a group of experts found that the components of the model manual and measurement tools were at a high level of suitability in all aspects, and finally, the results of the evaluation of model quality assurance revealed that the model had quality in accordance with its components; namely in terms of feasibility and suitability at a high level ; and utility and accuracy were at the highest level.

การวิจัยและพัฒนาในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาโมเดลการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดขั้นสูงของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีขั้นตอนการวิจัย 4 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน ความต้องการจำเป็นและองค์ประกอบของโมเดลฯ เครื่องมือการวิจัย คือ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์เชิงลึก กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหาร ครูผู้สอน และคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 1,131 คน ระยะที่ 2 พัฒนาโมเดลฯ ระยะที่ 3 ศึกษาผลการใช้โมเดลฯ กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย ผู้บริหาร 1 คน ครูผู้สอน 2 คน นักเรียน 15 คน เครื่องมือการวิจัย คือ โมเดลการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ฯ คู่มือการใช้โมเดลฯ หน่วยการเรียนรู้/กิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัดทักษะการคิดขั้นสูง ทั้ง 5 ทักษะการคิด แบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดย หาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่า t-test และ ระยะที่ 4 ประเมินและรับรองโมเดลฯ เครื่องมือการวิจัย คือ แบบประเมินและรับรองความเหมาะสมองค์ประกอบของโมเดลฯ แบบประเมินรับรองคุณภาพของโมเดลฯ โดยการสัมมนาอิงกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดย หาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการสำรวจสภาพปัจจุบัน ความต้องการจำเป็น และองค์ประกอบของโมเดลฯ พบว่า สภาพปัจจุบันโดยรวมอยู่ในระดับค่อนข้างน้อย และความต้องการจำเป็นโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และค่าดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นในการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงฯ ในโรงเรียนขนาดเล็ก พบว่า มีความต้องการจำเป็นอยู่ในระดับมากที่สุด

2. ผลการพัฒนาโมเดลฯ พบว่า

2.1 โมเดลฯ ที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการและการจัดการเรียนรู้ 4) เทคโนโลยี และ 5) การวัดประเมินผลที่เกิดจากการใช้โมเดลฯ

2.2 คู่มือการใช้โมเดลฯ ประกอบด้วย หน่วยการเรียนรู้/กิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัดทักษะการคิดขั้นสูงทั้ง 5 คิด ได้แก่ แบบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ แบบวัดทักษะการคิดสังเคราะห์ แบบวัดทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แบบวัดทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์ และแบบวัดทักษะการคิดเป็นระบบ และแบบสอบถามความพึงพอใจ

2.3 ผลการตรวจสอบ ประเมินและรับรองเกี่ยวกับความเหมาะสมขององค์ประกอบของโมเดลฯ ที่พัฒนาขึ้น พบว่า องค์ประกอบของโมเดลฯ มีความเหมาะสมระดับมากที่สุดทุกด้าน

3. ผลการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียนหน่วยการเรียนรู้ของนักเรียน มีผลการประเมินคะแนนค่าเฉลี่ยทักษะการคิดขั้นสูงหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินและรับรองโมเดลฯ พบว่า

4.1 ผู้บริหาร ครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความพึงพอใจต่อการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ตามโมเดลฯ อยู่ในระดับมากที่สุด และ นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ตามโมเดลฯ อยู่ในระดับมากที่สุดทุกหน่วยการเรียนรู้และทุกฐานเรียนรู้

4.2 ผลการประเมินและรับรองโมเดลฯ โดยการสัมมนาอิงกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า ส่วนประกอบของคู่มือการใช้โมเดลฯ และเครื่องมือ/แบบวัด มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากทุกด้าน และท้ายสุด ผลการประเมินรับรองคุณภาพโมเดลฯ พบว่า โมเดลฯ มีคุณภาพตามองค์ประกอบ คือ ด้านความเป็นไปได้ และด้านความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ส่วนด้านอรรถประโยชน์ และด้านความถูกต้องอยู่ในระดับมากที่สุด