Induced Mutation in Cactacea (Gymnocalycium mihanovichii ) using Colchicine

Abstract

CCacti are economic ornamental plants whose value varies with market trends. Recently, cacti with new morphologies were becoming more popular than the original ones. This research investigated the effect of colchicine on morphological and cytogenetic techniques anatomical traits in Gymnocalycium mihanovichii and to characterize the shape Matching and number of chromosomes of 10 genera of cactus family cultivated in Thailand. It was divided into 2 experiments as follows: Experiment 1 used a two-factor factorial design. The first factor was the colchicine concentration at 0, 0.25 and 0.5%. and the second factor was the duration of the dipped stem at 24 h and 48 h for a total of 6 methods with 5 repartitions. Experiment 2 was a study of cell genetics by examining the number of chromosomes in mitosis and miosis stages. The results indicated that G. mihanovichii treated with 0.25% colchicine for 24 h. and average height at 4.60 cm., and average diameter at 5.72 cm. G. mihanovichii treated with 0.50% colchicine for 48 h developed a new morphological trait called spineless cactus. However, the concentration and the duration of exposure were no effect on the number of ribs. Occurrences of larger sized stomata with lower frequency per unit area were statistically significantly different after treatment with 0.25% colchicine for 24 h. with average stomata cell was 23.25 µm. Also, the plants treated with the same concentration for 48 h. had an average stoma at 14.75 µm. /1 mm2.

แคคตัสเป็นหนึ่งในไม้ประดับเศรษฐกิจที่มีมูลค่าผันแปรไปตามกระแสตลาดที่มักให้ความสนใจเป็นพิเศษกับลักษณะที่แปลกใหม่เมื่อเปรียบเทียบกับพืชพันธุ์เดิมที่มีความนิยมลดลง งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเทคนิคการชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์ใน Gymnocalycium mihanovichii โดยใช้สารใช้สารโคลชิซินและเพื่อศึกษาเทคนิคทางเซลล์พันธุศาสตร์ในการระบุจำนวนโครโมโซม โดยแบ่งออกเป็น 2 การทดลอง ดังนี้ การทดลองที่ 1 วางแผนการทดลองแบบแฟคทอเรียล 2 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยที่ 1 ศึกษาความเข้มข้นของสารโคลชิซีน 3 ระดับ ได้แก่ 0, 0.25 และ 0.50 เปอร์เซ็นต์ ปัจจัยที่ 2 ศึกษาระยะเวลาในการจุ่มแช่สาร เป็นเวลา 24 และ 48 ชั่วโมง รวม 6 กรรมวิธีๆ 5 ซ้ำ การทดลองที่ 2 การศึกษาเซลล์พันธุศาสตร์ด้วยการศึกษาจากการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสและไมโอซิสเพื่อศึกษาจำนวนโครโมโซม นอกจากนี้ยังศึกษากายวิภาคศาสตร์เนื้อเยื้อผิวชั้นนอกของพืชทดลอง ผลการศึกษาพบว่าพืชที่ได้รับโคลชิซีนเข้มข้น 0.50 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง มีความสูงของ ลำต้นเฉลี่ย 4.60 เซนติเมตร และมีขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ย 5.72 เซนติเมตร ส่วนพืชที่ได้รับโคลชิซีนเข้มข้น 0.50 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 48 ชั่วโมง เกิดลักษณะใหม่เป็นแคคตัสไร้หนาม ทั้งนี้ความเข้มข้นของสารและระยะเวลาที่พืชได้รับไม่มีผลต่อจำนวนพูต่อต้น อย่างไรก็ตามพืชที่ได้รับโคลชิซีนเข้มข้น 0.25 เปอร์เซ็นต์ เป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง มีขนาดเซลล์ปากใบเฉลี่ย 23.25 ไมโครเมตร ส่วนพืชที่ได้รับสารเข้มข้นเท่ากันเป็นระยะเวลา 48 ชั่วโมง มีจำนวนเซลล์ปากใบเฉลี่ย 14.75 เซลล์ ต่อพื้นที่ 1 ตารางมิลลิเมตร