Developing Innovation Product of Meals Ready-to-Eat (MRE) for Disaster Victims in Emergency

Abstract

Each emergency event has several aspects of impact, such as the impact on lives, properties, economy, society, environment, and availability of food and drinking water. Furthermore, its damage to infrastructure systems may lead to food shortage and seriously affects victims’ livelihoods during a disaster. This research aims to study ready-to-eat food innovations that influence purchasing behavior of emergency victims and to develop ready-to-eat meal innovations to help emergency victims with an emphasis on research and innovation of Meals Ready-to-Eat (MREs). During emergencies, houses, infrastructure systems, transportation, and essential services are affected. As a result, electricity and water supply services are shut off, and the affected areas are not in a condition for cooking. This is an obstacle to timely assistance to victims. To facilitate more effective victim assistance, the preparation of MRE is crucial for the life sustenance of emergency victims as MRE is easily portable and can be stored for a long time. A questionnaire was employed to collect the data from 400 respondents in Pak Kret Municipality, Nonthaburi Province because it was affected by the 2011 Thailand Flood. Pak Kret Municipality is administered under five sub-districts, covering 34 villages in Pak Kret Subdistrict, Bang Phut Subdistrict, Ban Mai Subdistrict, Bang Talat Subdistrict, and Khlong Kluea Subdistrict. Multiple correlation and multiple regression techniques were used to analyze the data. The study revealed that integrated marketing communication, specific value, customer orientation, and product variety influenced purchasing behavior of MREs to help emergency victims at a statistically significant level of 0.05.

การเกิดสาธารณภัยในแต่ละครั้งส่งผลกระทบหลายด้านทั้งด้านชีวิต ทรัพย์สิน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการจัดหาอาหารและน้ำดื่ม รวมถึงระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ถูกตัดขาด ส่งผลทำให้ประสบปัญหาการขาดแคลนอาหารและส่งผลต่อการดำรงชีพของผู้ประสบภัยในช่วงที่เกิดภัยพิบัติอย่างมาก การวิจัยในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษานวัตกรรมอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อของผู้ประสบภัยในภาวะฉุกเฉินและการพัฒนานวัตกรรมอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาวะฉุกเฉิน โดยให้ความสำคัญในการวิจัยและคิดค้นนวัตกรรมอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน (Meals Ready-to-Eat: MRE) ในขณะที่เกิดสาธารณภัยในภาวะฉุกเฉิน พบว่า ที่อยู่อาศัย โครงสร้างสาธารณูปโภค การคมนาคม และการบริการพื้นฐานได้รับผลกระทบ ทำให้ไฟฟ้าและประปาถูกตัดขาด และสภาพพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยในการประกอบอาหารทำให้เกิดความไม่พร้อมในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การเตรียมพร้อมในอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดำรงชีพของผู้ประสบภัยในภาวะฉุกเฉิน อีกทั้งยังต้องง่ายต่อการพกพาและสามารถเก็บไว้นาน ผู้วิจัยได้ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากประชากรในชุมชนเทศบาลนครปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรีซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยได้รับผลกระทบจากอุทกภัยปี 2554 ที่ผ่านมา จำนวน 400 คน โดยชุมชนเทศบาลนครปากเกร็ด รับผิดชอบพื้นที่ปกครอง 5 ตำบล โดยมีเขตปกครองรวม 34 หมู่บ้าน ประกอบด้วย ตําบลปากเกร็ด ตําบลบางพูด ตําบลบ้านใหม่ ตำบลบางตลาด และตำบลคลองเกลือ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์สหสัมพันธ์แบบพหุคูณ (Multiple Correlation Analysis) และสมการถดถอยเชิงซ้อน (Multiple Regression) และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ผลการวิจัยตามสมมติฐาน พบว่า ด้านการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการซื้ออาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาวะฉุกเฉิน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ด้านคุณค่าเฉพาะตัวมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการซื้ออาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาวะฉุกเฉิน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ด้านการมุ่งเน้นที่ตัวลูกค้ามีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการซื้ออาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาวะฉุกเฉิน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการซื้ออาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาวะฉุกเฉิน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05