Saxophone Teaching Instructional Model in Higher Education Institutions in Thailand

Abstract

The objective this research is 1) To study the model of saxophone teaching and learning management of higher education institutions in Thailand. 2) To develop saxophone teaching styles of higher education institutions in Thailand. The researcher using Mixed Methodology. The research instruments were interview form, teaching observation form. Saxophone teaching style of higher education institutions in Thailand Saxophone Practice Skills Assessment Form for Students and the satisfaction assessment form of the learners towards the teaching model. The basic statistics were used to analyze the data, namely the mean standard deviation (S.D.) and the paired sample t-test. The results were as follows

1. All instructors have a plan for teaching and learning in accordance with the objectives of the institution's curriculum. There are guidelines for teaching and learning to focus on students' understanding of the main elements of music and the correct and appropriate practice of saxophone. self-observation understand the song Learners have made good progress. Able to build on their own knowledge upon graduation Have professional love, morality, ethics, and social responsibility.

2. Saxophone Teaching Instructional Model in Higher Education Institutions in Thailand Contains 7 steps 1) Saxophone Skill Pre-Test 2) Saxophone Basic Adjustment 3) Extending Saxophone Skill 4) Articulation 5) Saxophone & Piano 6) Activity Group 7) Final Exam. The results of the efficacy analysis of the teaching style were sufficient that the students had higher scores on saxophone practice skills after school than before. with statistical significance level of .05 and the learners were satisfied with the learning according to the teaching style. with the highest level of overall satisfaction ( x̄= 4.6, S.D.=0.63)

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแซกโซโฟนของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย 2) พัฒนารูปแบบการสอนแซกโซโฟนของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสานระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกตการณ์สอน รูปแบบการการสอนแซกโซโฟนของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย แบบประเมินทักษะปฏิบัติแซกโซโฟนของผู้เรียน และแบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนต่อรูปแบบการสอน ใช้สถิติพื้นฐานในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และสถิติทดสอบที (Paired sample t-test) ผลการวิจัยปรากฎดังนี้

1. อาจารย์ผู้สอนทุกท่านมีการวางแผนการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตรของสถาบันที่ได้กำหนดไว้ มีแนวทางการจัดการเรียนการสอนเพื่อมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความเข้าใจในองค์ประกอบหลักของดนตรีและวิธีปฏิบัติแซกโซโฟนที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตนเอง รู้จักการสังเกตตนเอง มีความเข้าใจในบทเพลง ผู้เรียนมีพัฒนาการที่ดี สามารถต่อยอดความรู้ได้เองเมื่อสำเร็จการศึกษา มีความรักในวิชาชีพ มีคุณธรมม จริยธรรม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม

2. รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแซกโซโฟนของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย ประกอบด้วย 7 ขั้นตอน คือ 1) ทดสอบพื้นฐานทักษะการบรรเลง 2) ปรับพื้นฐานการบรรเลง 3) ต่อยอดทักษะการบรรเลง 4) การฝึกออกเสียงสั้น-ยาว (Articulation) 5) เพลงคลาสสิกสำหรับแซกโซโฟนและเปียโนประกอบ 6) กิจกรรมกลุ่ม 7) การสอบปลายภาค ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของรูปแบบการสอน พอว่า ผู้เรียนมีคะแนนทักษะปฏิบัติแซกโซโฟนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอน โดยมีระดับความพึงพอใจในภาพรวมระดับมากที่สุด ( x̄= 4.6, S.D.=0.63)