The Consequences of Populist Policy on Community's Way of Life and Economy in Kalasin Province

Abstract

The study “The Consequences of Populist Policy on Community's Way of Life and Economy in Kalasin Province” has two purposes : 1) to study populist policies which affected community’s way of life of the population in the sixth electorate of Kalasin province; and 2) to study populist policies which affected community’s economy of the population in the sixth electorate of Kalasin province. This is a qualitative research, comprising documentary study and in-depth interview. I did documentary study by collecting information from various sources such as books, researches and reports and interviewed 20 of the key informants by using of semi-structured Interview form and then presented the analyzed and synthesized study results by description.

The study found that populist policies affected community’s ways of life in the area in positive ways. An example of good policies is the 30 Baht Health Care policy which clearly improved people’s quality of life because they were treated and supported in health from the government thoroughly

Populist policies effected community economy, because, in all communities, there are needs in economic aspects for income growth. People can provide themselves and their families a better life. Populist policies provided them various opportunities and more incomes. One of the good policies is the 300-Baht Minimum-Wage policy, which helps labors get more incomes to improve the whole economic system. If the population’s incomes increase, they spend more. Consequently, It affects the economy in household, community and the country.

There are 6 populist policies that are already preceded, which are 30 Baht Health Care policy, Money Allowance policy, 300-Baht Minimum Wage policy, A-Million-Baht Village Fund policy, One Tambon One Product policy (OTOP), and Farmer Debt Settlement Policy. These policies affected community’s way of life and community economy. Although these policies were initiated by Phue Thai Party, They have been being proceeded by later governments, including the current government.

In conclusion, some populist policies affected community’s way of life and community economy in one way or another, while others affected both of them. However, all populist policies mentioned above benefited people in the community by increasing income, creating opportunity, and enhancing a better community’s way of life. So, that’s why people in the community accepted the populist policies.

การศึกษาค้นคว้าอิสระเรื่อง “นโยบายประชานิยมที่ส่งผลต่อวิถีชีวิตและเศรษฐกิจชุมชนในจังหวัดกาฬสินธุ์” มีความมุ่งหมาย 2 ประการคือ 1) เพื่อศึกษานโยบายประชานิยมที่ส่งผลต่อวิถีชีวิตชุมชนของประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 6 จังหวัดกาฬสินธุ์ 2) เพื่อศึกษานโยบายประชานิยมที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจชุมชนของประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 6 จังหวัดกาฬสินธุ์ การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ที่ประกอบด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) ผู้ให้ข้อมูลหลัก จำนวน 20 คน โดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งมีโครงสร้าง (Semi-Structure Interview) เป็นเครื่องมือ และการวิจัยเชิงเอกสาร โดยผู้ศึกษาได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากหนังสือ เอกสาร รายงานหรือสื่ออื่นๆ แล้วเสนอผลการศึกษาในเชิงวิเคราะห์และสังเคราะห์ ข้อมูลที่ได้นำเสนอด้วยการพรรณนาความ

ผลการศึกษาพบว่า นโยบายประชานิยมส่งผลต่อวิถีชีวิตชุมชน เช่น นโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรค เป็นนโยบายที่ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะประชาชนได้รับการดูแลและส่งเสริมด้านสาธารณสุขจากภาครัฐอย่างทั่วถึง ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นจากนโยบายประชานิยม ก็ส่งผลให้นโยบายประชานิยมที่เข้าถึงประชาชนนั้น เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของประชาชนในชุมชน

นโยบายประชานิยมส่งผลต่อเศรษฐกิจชุมชน ในทุกชุมชนมีความต้องการทางด้านเศรษฐกิจเพื่อการเติบโตของชุมชนในการเพิ่มรายได้แก่ตนเองและครอบครัว เพื่อให้สามารถที่จะพึ่งพาตนเองและเลี้ยงครอบครัวให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ นโยบายประชานิยมที่จะทำให้ส่งผลต่อเศรษฐกิจชุมชนต้องเป็นนโยบายที่ทำให้ประชาชนมีอาชีพและรายได้เพิ่มมากขึ้นอย่างแท้จริง เช่น นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เป็นนโยบายที่ทำให้ผู้ใช้แรงงานทุกภาคส่วนมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ เมื่อประชาชนมีรายได้ที่มากขึ้นการใช้จ่ายเงินเพื่ออุปโภคและบริโภคย่อมมากขึ้นตามไปด้วย ส่งผลต่อเศรษฐกิจทั้งในระดับครัวเรือน ชุมชน และภาพรวมระดับประเทศ

ทั้งนี้ นโยบายประชานิยมที่ได้ดำเนินการมาแล้วทั้ง 6 ด้าน คือ นโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรค นโยบายเบี้ยยังชีพรายเดือน นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท นโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองกองทุนละ 1 ล้านบาท นโยบายหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) นโยบายพักหนี้เกษตรกร เป็นนโยบายที่ส่งผลดีต่อวิถีชีวิตชุมชนและเศรษฐกิจชุมชน รัฐบาลจึงยังคงมีการดำเนินการเรื่อยมา แม้ว่าพรรคเพื่อไทยที่เป็นรัฐบาลที่ริเริ่มโครงการ ตามนโยบายดังกล่าวนี้จะไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้วก็ตาม จึงเห็นได้ว่านโยบายประชานิยมล้วนส่งผลต่อวิถีชีวิตชุมชนและเศรษฐกิจชุมชนไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่งหรือบางนโยบายส่งผลต่อทั้งวิถีชีวิตชุมชนและเศรษฐกิจชุมชน นโยบายประชานิยมจึงมีผลต่อประชาชนในชุมชนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม นโยบายประชานิยมดังกล่าวมานี้ ล้วนแต่เป็นนโยบายประชานิยมที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในชุมชนที่สามารถเพิ่มรายได้ สร้างอาชีพ ประชาชนในชุมชนมีวิถีชีวิตและการดำเนินชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้น ประชาชนในชุมชนจึงยอมรับในนโยบายประชานิยม