The development of mathematical literacy in Matthayomsuksa 4 students by using Problem-Based Learning with Mathematic Skill Package

Abstract

This research is the action research. The objective is to study the developmental scores for the mathematical literacy of Mathayomsuksa 4 students about learning probability by applying the Problem–Based Learning with Mathematics skill package. The target group is 41 students of Mathayomsuksa 4 students in the academic year 2020 from Phadungnaree School, Muang, Mahasarakram. They are selected by using the purposive sampling of 1 classroom. The research instruments are 8 lesson plans of the Problem–Based Learning with Mathematics skill package in the topic of probability, Mathematics skill package in the topic of probability, 3 sets of the mathematical literacy test and the interview form. The statistical techniques are applied to analyse the data such as mean, percentage and standard deviation.

Throughout this research, we found that the mathematical literacy of Mathayomsuksa 4 students by applying the Problem–based Learning with Mathematics skill package as the follows: The average for the first , second , third groups are 56.10, 69.97, 84.15 percent, respectively. Especially, for the third group, each of student’s score is higher than 70 percent. Moreover, scores for the mathematical literacy have improved for every group.

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาคะแนนพัฒนาการการรู้เรื่องคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับชุดเสริมทักษะ ทางคณิตศาสตร์ โดยประชากรเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/7 โรงเรียนผดุงนารี อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 เครื่องมือที่ใช้ใน การวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับชุดเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 แผนการจัดการเรียนรู้ 2) ชุดเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ 3) แบบทดสอบวัดการรู้เรื่องคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น เป็นแบบทดสอบประเภทอัตนัย จำนวน 3 ชุด และ 4) แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) ประกอบด้วย 3 วงจรปฏิบัติการ ได้แก่ วงจรปฏิบัติการที่ 1 ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1-3 วงจรปฏิบัติการที่ 2 ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4-5 และวงจรปฏิบัติการที่ 3 ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 – 8 ซึ่งสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้

ความสามารถในการรู้เรื่องคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังจากได้รับ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับชุดเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ ในวงจรปฏิบัติการที่ 1 นักเรียน มีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 56.10 ในวงจรปฏิบัติการที่ 2 นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 69.97 และในวงจรปฏิบัติการที่ 3 นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 84.15 ซึ่งนักเรียนทุกคนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็มในวงจรปฏิบัติที่ 3 และยังพบว่าคะแนนความสามารถในการรู้เรื่องคณิตศาสตร์ของนักเรียนในแต่ละวงจรปฏิบัติการนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนั้นเมื่อพิจารณาองค์ประกอบของการรู้เรื่องคณิตศาสตร์ ในด้านเนื้อหาทางคณิตศาสตร์ ด้านกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และด้านสถานการณ์หรือบริบท พบว่าคะแนนของนักเรียนเพิ่มขึ้นในแต่ละวงจรปฏิบัติการและในวงปฏิบัติการที่ 3 องค์ประกอบทุกด้านผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70