The Development based on STEM Education promote Criticalthinking skills for grade 6 students.

Abstract

The Development based on STEM Education promote critical thinking skills for grade 6 students. The objectives were (1) to develop a set of learning activities using STEM Education to promote critical thinking skills for Grade 6 students, performance must be 70/70 (2) to compare the critical thinking skills of Grade 6 students before and after receiving learning using STEM Education (3) to study the satisfaction of Grade 6 students with learning activity sets based on STEM Education. The sample group of the research consisted of 10 grade 6 students. They were obtained by Purposive Sampling. Research tools included: (1) Learning activity set based on STEM education concepts of grade 6 students, 2 units, totaling 12 hours, (2) academic achievement test, (3) critical thinking skills test and (4) evalualuation form on student satisfaction with learning activity sets based on STEM education concepts. Data analysis statistics included mean, standard deviation and percentage.

The research results found that (1) Efficiency of the learning activity set Using STEM education concepts of Grade 6 students, the efficiency was 83.70/84.50 (2) Grade 6 students who have learned with learning activity sets using STEM concepts had critical thinking skills after the study higher than before the study and (3) Grade 6 students were satisfied with learning activity set based on STEM in overall at the highest level.

การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดสะเต็มศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดสะเต็มศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 (2) เพื่อศึกษาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมโดยใช้แนวคิดสะเต็มศึกษา และ (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 10 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย (1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดสะเต็มศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 2 ชุดกิจกรรม รวมเป็น 12 ชั่วโมง (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน (3) แบบวัดทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และ (4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา สถิติที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และร้อยละ

ผลการวิจัยพบว่า (1) ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แนวคิดสะเต็มศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเท่ากับ 83.70/84.50 (2) มีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และ (3) ความพึงพอใจต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด