The Study of Geographic Information System on City Data Platform (CDP) for Evaluating the Results of Land Use Changes, Case Study : Kalasin Comprehensive Town Plan

Abstract

This research is interested in The Study of Geographic Information System on City Data Platform (CDP) for Evaluating the Results of Land Use Changes, Case Study : Kalasin Comprehensive Town Plan The objectives of the research are: 1. To study the city data platform (CDP) model for use as a tool for evaluating land use changes in the Kalasin City Comprehensive Plan. 2. To study land use information. and current buildings For use as a guideline for improving the city plan of Kalasin. 3. To recommend that local administrative organizations use it as a guideline for improving the city plan. To be in line with local needs and keep up with economic, social and environmental changes.The researcher surveyed the study area (Site Survey) together with in-depth interviews including provincial level executives/heads of government agencies/educational institution administrators/local government organization executives/faculty representatives. Kalasin Provincial Town Planning Committee and the private sector. In addition, the researcher uses the SuperMap GIS program to display study results in MapDashboard format.The results of the study found that city data platform (CDP) information is an important tool for managing information related to land development and planning in urban areas. Such tools help relevant agencies such as the Department of Public Works and Town & Country Planning, Department of Lands, Department of Treasury or other agencies collect important information about urban areas. By displaying results through the Dashboard, it is a clear display. and can understand the information even more By studying current information on land and building use, it was found that: 1. Total land use Commercial and very dense residential types have already used up to 72.97 percent of this type of land, indicating that land use in the city planning area has begun to change that may affect support for expansion. of the population or economic activities according to the specified objectives. 2. Land use for other activities. It was found that from the 4 types of land use, there were 40 land use areas where there was more land use for other activities. Regulations for 13 areas where land use for other activities existed before this Ministerial Regulation came into force. And there has been a change in land use, such as land use for residences. Changed to land use for residential and semi-commercial use. In conclusion, all land uses of the Kalasin City Comprehensive Plan 2019 still have potential. and according to the spirit of the plan In any area where there is total land use or the use of land for other activities as specified "exceeds" or "almost full" should notify the relevant agencies of the regulations to comply with the law and examine the facts as well. From the results of the analysis combined with in-depth interviews, it was found that the city should be developed in accordance with the theory of the compact city (Compact City). There should be no urban sprawl. There is no system, lack of planning and control. Therefore, the development of the area around the new government center should be promoted. (Low density residential land use (yellow) due to Kalasin University and has a shopping center to reduce congestion and reduce traffic congestion in the old city area Emphasis is placed on land use that has appropriate connections between urban areas. In order to have efficient use of land It also emphasizes on having a mix of areas with different uses, making traveling between those areas easier, reducing traffic congestion. Land use is based on the compact city theory and is therefore an efficient method of land management. and the city to be suitable for use and the environment Both now and in the future.

การวิจัยนี้สนใจศึกษาข้อมูลสารสนเทศรูปแบบแพลตฟอร์มข้อมูลเมือง (CDP) เพื่อใช้ประเมินผลการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน กรณีศึกษา ผังเมืองรวมเมืองกาฬสินธุ์ โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1. เพื่อศึกษารูปแบบแพลตฟอร์มข้อมูลเมือง (CDP) สำหรับใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินผลการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินของผังเมืองรวมเมืองกาฬสินธุ์ 2. เพื่อศึกษาข้อมูลสารสนเทศด้านการใช้ประโยชน์ที่ดินและอาคารในปัจจุบัน สำหรับนำไปใช้เป็นแนวทางการปรับปรุงผังเมืองรวมเมืองกาฬสินธุ์ 3. เพื่อเสนอแนะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้เป็นแนวทางสำหรับการปรับปรุงผังเมืองรวม ให้สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นและทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยผู้วิจัยได้ทำการลงสำรวจพื้นที่ศึกษา (Site Survey) ร่วมกับการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) ได้แก่ ผู้บริหารระดับจังหวัด/หัวหน้าส่วนราชการ/ผู้บริหารสถาบันการศึกษา/ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/ผู้แทนคณะกรรมการผังเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์ และภาคเอกชนนอกจากนี้ผู้วิจัยยังใช้โปรแกรม SuperMap GIS ในการแสดงผลการศึกษาในรูปแบบ MapDashboardผลการศึกษา พบว่า ข้อมูลสารสนเทศรูปแบบแพลตฟอร์มข้อมูลเมือง (CDP) เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาและการวางแผนที่ดินในพื้นที่เมือง เครื่องมือดังกล่าวช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ หรือหน่วยงานต่าง ๆ เก็บรวบรวมข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับพื้นที่เมือง โดยการแสดงผลผ่าน Dashboard เป็นการแสดงผลที่ชัดเจนเป็นประจักษ์ และสามารถเข้าใจข้อมูลมากยิ่งขึ้น โดยการศึกษาถึงข้อมูลสารสนเทศด้านการใช้ประโยชน์ที่ดินและอาคารในปัจจุบัน พบว่า 1. การใช้ประโยชน์ที่ดินรวม ประเภทพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัยหนาแน่นมากมีการใช้ประโยชน์ที่ดินไปแล้วถึงร้อยละ 72.97 ของที่ดินประเภทนี้ แสดงว่า การใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตผังเมืองรวมเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่อาจส่งผลกระทบต่อการรองรับการขยายตัวของประชากรหรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ได้ 2. การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่น พบว่า จากประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดินทั้ง 4 ประเภท มีบริเวณการใช้ประโยชน์ที่ดิน จำนวน 40 บริเวณ มีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นเกินข้อกำหนดจำนวน 13 บริเวณ ซึ่งการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นที่เกิดขึ้นมีมาก่อนที่กฎกระทรวงฉบับนี้จะประกาศใช้บังคับ และมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน เช่น การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อพักอาศัย เปลี่ยนแปลงเป็นการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อพักอาศัยกึ่งพาณิชย์ สรุปได้ว่า การใช้ประโยชน์ที่ดินทั้งหมดของผังเมืองรวมเมืองกาฬสินธุ์ พ.ศ. 2562 ยังคงมีศักยภาพ และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของผัง ในส่วนบริเวณใดบริเวณหนึ่งที่มีการใช้ประโยชน์ที่ดินรวม หรือการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นตามที่กำหนดไว้ “เกิน” หรือ “เกือบเต็ม” ควรแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบถึงข้อปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยจากผลการวิเคราะห์ร่วมกับการสัมภาษณ์เชิงลึก พบว่า ควรมีการพัฒนาเมืองให้เป็นไปตามทฤษฎีเมืองกระชับ (Compact City) ไม่ควรให้มีการขยายตัวของเมืองแบบกระจัดกระจาย (Urban Sprawl) ซึ่งการขยายตัวดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างไม่มีระบบ ขาดการวางแผน และการควบคุม จึงควรส่งเสริมการพัฒนาบริเวณรอบศูนย์ราชการแห่งใหม่ (การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย (สีเหลือง) เนื่องจากมีมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ และมีศูนย์การค้า เพื่อลดการแออัด และลดการจราจรติดขัดในเขตชุมชนเมืองเก่า โดยเน้นให้มีการใช้ประโยชน์ที่ดินที่มีความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ในเมืองอย่างเหมาะสม เพื่อให้มีการใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ และยังเน้นให้มีการผสมผสานระหว่างพื้นที่ที่มีการใช้งานต่าง ๆ ทำให้เกิดการเดินทางระหว่างพื้นที่นั้นๆ ง่ายขึ้น ลดการจราจรติดขัด การใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นไปตามทฤษฎีเมืองกระชับ (Compact City) จึงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการจัดการที่ดิน และเมืองให้เหมาะสมกับการใช้งานและสิ่งแวดล้อม ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต