Please use this identifier to cite or link to this item: http://202.28.34.124/dspace/handle123456789/512
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributorChirobon Wanthanaen
dc.contributorชิโรบล วรรณธะนะth
dc.contributor.advisorOranuch Srisa-arden
dc.contributor.advisorอรนุช ศรีสะอาดth
dc.contributor.otherMahasarakham University. The Faculty of Educationen
dc.date.accessioned2019-11-19T09:35:13Z-
dc.date.available2019-11-19T09:35:13Z-
dc.date.issued23/8/2019
dc.identifier.urihttp://202.28.34.124/dspace/handle123456789/512-
dc.descriptionMaster of Education (M.Ed.)en
dc.descriptionการศึกษามหาบัณฑิต (กศ.ม.)th
dc.description.abstractThe purposes of this research were 1) to study the actual state and desirable state and the priority needs of academic administration of the Princess Chulabhorn Science High School in the Northeast and 2) to develop academic administration guidelines of the Princess Chulabhorn Science High School in the Northeast. The research was divided into 2 phases. Phase1: to study the actual state and desirable state and the priority needs of academic administration. The samples comprised of 123 schools administrators and teachers those were collected by stratified random sampling through the chart of Krejcie and Morgan. The tool was a 5 rating scale questionnaire. The statistics was analysis by using mean, standard deviation and PNImodified. Phase2: the guidelines of academic administration by the study of 2 best practices schools. The informants included 12 of schools administrators and teachers. The tool were structured interview form and evaluate the suitability and feasibility of the guidelines of academic administration by 5 experts. The statistics was analyzed by using mean, standard deviation and content analysis. The results were as follows: 1. The actual state of academic administration of the Princess Chulabhorn Science High School in the Northeast were overall and all aspects at a high level. The desirable state were overall and all aspects at the highest level. The priority needs were by descending order from high to low as follows: curriculum development, instructional management, academic planning, measurement and assessment. 2.  The development of guidelines for academic administration of the Princess Chulabhorn Science High school in the Northeast were at a high level of suitability and feasibility evaluation.The development of guidelines described: Curriculum development should integrate content learning courses with various activities, promoting activities to develop life skills students and preparation of materials for students are the same standard. Academic planning should set a time of learning activities in accordance with the purposes of school, the teachers have participated in the school timetable, reducing the workload of the teachers does not involve teaching. Teaching and learning should improve the quality of education through the research process, enhancing the school environment that promotes learning and teaching, library development conducive to facilitate learning for students. Measurement and evaluation should measure and evaluate the teaching and learning authentic and the improvement and development of evaluation results are the guidelines for the next year and the increase development of the students to study in science mathematics and technology field at university.en
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของการบริหารงานวิชาการกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2) พัฒนาแนวทางการบริหารงานวิชาการกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะคือ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบันสภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นในการบริหารงานวิชาการกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์ จุฬาภรณราชวิทยาลัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารและครู จํานวน 123 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น กําหนดขนาดโดยใช้ตารางเครจซี่และมอร์แกน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าดัชนีความต้องการจําเป็น ระยะที่ 2 การพัฒนาแนวทางการบริหารงานวิชาการกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากการศึกษาสถานศึกษาที่มีการปฏิบัติดีเยี่ยม Best Practices จํานวน 2 โรงเรียน กลุ่มผู้ให้ข้อมูล คือผู้บริหารและครู จํานวน 12 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างและประเมินความเหมาะสมและเป็นไปได้ของแนวทางพัฒนาการบริหารงานวิชาการกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จํานวน 5 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบประเมิน สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพปัจจุบันของการบริหารงานวิชาการกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก สภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารงานวิชาการของกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด และลําดับความต้องการจําเป็นของการบริหารงานวิชาการของกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อพิจารณารายด้านเรียงลําดับความต้องการจําเป็นจากมากไปน้อย ได้แก่ การพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน การวางแผนงานวิชาการและการวัดผลและประเมินผล             2. การพัฒนาแนวทางการบริหารงานวิชาการของกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีผลการประเมินความเหมาะสมและมีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก โดยมีแนวทางการพัฒนาแต่ละด้านดังนี้ การพัฒนาหลักสูตร คือควรบูรณาการเนื้อหาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ เข้าด้วยกัน ส่งเสริมการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตนักเรียน จัดทำเอกสารประกอบการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนเป็นมาตรฐานเดียวกันการวางแผนงานวิชาการ คือ ควรจัดเวลาของกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติของโรงเรียน ให้ครูมีส่วนร่วมในการจัดตารางเรียนของโรงเรียน ลดภาระงานอื่น ๆ ของครูที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน การจัดการเรียนการสอน คือควรมีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยกระบวนการวิจัย เสริมสร้างจัดบรรยากาศในโรงเรียนที่ช่วยส่งเสริมการจัดการเรียนการสอน พัฒนาห้องสมุดให้เอื้อต่อการเรียนรู้แก่นักเรียน การวัดผลและประเมินผล คือ ควรวัดและประเมินผลการเรียนการสอนตามสภาพจริง นําผลการประเมินมาปรับปรุงและพัฒนาเพื่อใช้เป็นแนวทางในปีต่อไป และพัฒนานักเรียนให้ศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีให้เพิ่มมากขึ้นth
dc.language.isoth
dc.publisherMahasarakham University
dc.rightsMahasarakham University
dc.subjectการพัฒนาth
dc.subjectแนวทางth
dc.subjectการบริหารงานวิชาการth
dc.subjectDevelopmenten
dc.subjectGuidelinessen
dc.subjectAcademic administrationen
dc.subject.classificationSocial Sciencesen
dc.subject.classificationSocial Sciencesen
dc.titleThe Development of Guidelines for Academic Administration of the Princess Chulabhorn Science High School in the Northeasten
dc.titleการพัฒนาแนวทางการบริหารงานวิชาการของกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือth
dc.typeThesisen
dc.typeวิทยานิพนธ์th
Appears in Collections:The Faculty of Education

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
60010586036.pdf2.13 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.