THE USE OF GROUP INVESTIGATION IN ENHANCING ENGLISH CAUSE-EFFECT WRITING ABILITY OF MATTHAYOMSUKSA 6 STUDENTS

Abstract

The purposes of this study were 1) to promote cause-effect paragraph English writing ability based on group investigation activity, and 2) to study the attitude towards group investigation through the cause-effect paragraph writing. The samples came from the cluster random sampling of 35 Matthayomsuksa 6/11 students of Suwannaphumpittayapaisarn School in the first semester of academic year 2017. The instruments used in this research were 1) Group Investigation activity lesson plans, 2) English writing test, 3) English writing ability assessment form, 4) teacher diary, 5) semi-structured interview and 6) students’ attitude questionnaire. The data were analyzed by mean, percentage, standard deviation, and t-test dependent samples.

The findings were as follows:

1. The achievement of students’ cause-effect English writing ability through group investigation activity after learning was significantly higher than before learning at the level .05.

2. The students’ learning attitudes toward group investigation activity through the cause-effect paragraph writing were at the good level (Mean = 4.17).

In conclusion, the group investigation learning activity could enhance Matthayomsuksa 6 students’ cause-effect English writing ability. The students were agreed that this activity could help them have higher writing ability. Therefore, this activity should be used in class to improve students’ English writing ability.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการเขียนภาษาอังกฤษเชิงแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผลของนักเรียนก่อนและหลังได้รับการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมสืบค้นและเพื่อศึกษาเจตคติของนักเรียนต่อการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมสืบค้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนสุวรรณภูมิพิทยไพศาล อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เรียนวิชาภาษาอังกฤษเพิ่มเติม (อ30205) จำนวน 35 คน ที่ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการสอนเขียนแบบกลุ่มร่วมสืบค้น 2) แบบทดสอบการเขียน 3) แบบประเมินความสามารถทางการเขียนภาษาอังกฤษแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล 4) แบบบันทึกผลการจัดกิจกรรมการสอนของครู 5) แบบสอบถามวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการสอนเขียนแบบกลุ่มร่วมสืบค้น และ 6) แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบค่าที (t-test Dependent Samples)

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการสอนเขียนภาษาอังกฤษแบบกลุ่มร่วมสืบค้น มีค่าคะแนนเฉลี่ยการทดสอบก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 27.71 และค่าคะแนนเฉลี่ยการทดสอบหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 71.24 สรุปได้ว่าคะแนนเฉลี่ยหลังการจัดกิจกรรมสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรม และผลการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความสามารถทางการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการสอนเขียนภาษาอังกฤษแบบกลุ่มร่วมสืบค้นก่อนเรียนและหลังเรียนพบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05

2. นักเรียนมีเจตคติต่อการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมสืบค้นเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการเขียนภาษาอังกฤษเชิงแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผลอยู่ในระดับดี โดยมีคะแนนค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.17

ดังนั้นสรุปได้ว่า การจัดกิจกรรมการสอนเขียนภาษาอังกฤษแบบกลุ่มร่วมสืบค้น สามารถพัฒนาความสามารถด้านการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้ และผู้เรียนมีเจตคติที่ดีในการจัดกิจกรรมการสอนดังกล่าว สมควรที่จะนำไปจัดกิจกรรมการสอนเพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนบรรลุวัตถุประสงค์ต่อไป