Please use this identifier to cite or link to this item:
http://202.28.34.124/dspace/handle123456789/924
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor | Napatchanan Boonramee | en |
dc.contributor | ณภัชนันท์ บุญระมี | th |
dc.contributor.advisor | Intisarn Chaiyasuk | en |
dc.contributor.advisor | อินธิสาร ไชยสุข | th |
dc.contributor.other | Mahasarakham University. The Faculty of Humanities and Social Sciences | en |
dc.date.accessioned | 2021-09-03T16:13:54Z | - |
dc.date.available | 2021-09-03T16:13:54Z | - |
dc.date.issued | 31/5/2020 | |
dc.identifier.uri | http://202.28.34.124/dspace/handle123456789/924 | - |
dc.description | Master of Education (M.Ed.) | en |
dc.description | การศึกษามหาบัณฑิต (กศ.ม.) | th |
dc.description.abstract | The purposes of this study were : (1) to study the efficiency of eight lesson plans which were created from the concept of Scaffolding for Reading Activity and Brain-based Learning Activities in order to promote Mathayomsuksa 5 students’ English reading ability with the required efficiency of 75/75 (E1/E2), (2) to study the effectiveness index of those lesson Plans, and (3) to study students’ reading ability after teaching students with those plans. The samples of this study consisted of 35 Mathayomsuksa 5 students attending in the first semester of the academic year 2019 at Nakhonphanomwittayakhom School, Mueang district, Nakhomphanom province. They were selected by cluster random sampling technique. The instruments used in this study were : (1) eight lesson plans created from the concept of Scaffolding for Reading Activity and Brain-based Learning Activities, three hours per each plan; (2) a 40 items reading test, and t-test (dependent sample) for hypothesis testing. The Result of the study were as follows: 1. The lesson plans created from the concept of Scaffolding for Reading Activity and Brain-based Learning Activities in order to promote Mathayomsuksa 5 students’ English reading ability had efficiency of 77.87/75.79, which was higher than the established criterion. 2. The effectiveness index of lesson plans created from the concept of Scaffolding for Reading Activity and Brain-based Learning Activities created was 0.64. 3. After organizing lesson plans using the integration of Scaffolding for Reading Activity and Brain-based Learning Activities with sample group, the mean scores of all students in the post-test were higher in the pre-test. It showed statistical significant of the .05 level. | en |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ (1) ศึกษาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีการอ่านแบบเสริมต่อการเรียนรู้ร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นสมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีการอ่านแบบเสริมต่อการเรียนรู้ร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นสมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และ (3) ศึกษาความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษของผู้เรียนหลังการใช้กลวิธีการอ่านแบบเสริมต่อการเรียนรู้ร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นสมองเป็นฐาน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 35 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีการอ่านแบบเสริมต่อการเรียนรู้ร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นสมองเป็นฐาน จำนวน 8 แผน แผนละ 3 ชั่วโมง (2) แบบทดสอบความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษชนิดปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ และทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติ t-test (dependent sample) ผลการวิจัย ปรากฏดังนี้ 1. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นตามแนวคิดกลวิธีการอ่านแบบเสริมต่อการเรียนรู้ร่วมกับ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 77.87/75.79 2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีแบบเสริมต่อการเรียนรู้ร่วมกับ 5 มีค่าเท่ากับ 0.64 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนคิดเป็นร้อยละ 64.00 3. หลังจากที่ผู้วิจัยได้นำแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีกลวิธีแบบเสริมต่อการเรียนรู้ร่วมกับ กิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นสมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มาทดลองกับกลุ่มตัวอย่างในงานวิจัย พบว่า ค่าเฉลี่ยของคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 | th |
dc.language.iso | th | |
dc.publisher | Mahasarakham University | |
dc.rights | Mahasarakham University | |
dc.subject | เสริมต่อการเรียนรู้ | th |
dc.subject | สมองเป็นฐาน | th |
dc.subject | ความสามารถด้านการอ่าน | th |
dc.subject | Scaffolding | en |
dc.subject | Brain-baded Learning | en |
dc.subject | Reading Ability | en |
dc.subject.classification | Arts and Humanities | en |
dc.title | The Use of Scaffolding for Reading Activity and Brain-based Learning Activities to Promote Mathayomsuksa 5 Students' English Reading Ability | en |
dc.title | การใช้กลวิธีการอ่านแบบเสริมต่อการเรียนรู้ร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นสมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 | th |
dc.type | Thesis | en |
dc.type | วิทยานิพนธ์ | th |
Appears in Collections: | The Faculty of Humanities and Social Sciences |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
58010181010.pdf | 2.34 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.